(แฟ้มภาพซินหัว : ต้นศรีตรังบานสะพรั่งใกล้กับซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย วันที่ 30 ต.ค. 2024)
แคนเบอร์รา, 16 ก.พ. (ซินหัว) -- วันอาทิตย์ (16 ก.พ.) จิม ชาลเมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และแคลร์ โอนีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและคนไร้บ้านของออสเตรเลีย ประกาศว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะห้ามนักลงทุนต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ในประเทศเป็นระยะเวลา 2 ปี มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2025-31 มี.ค. 2027
คำสั่งห้ามนี้กำหนดว่านักลงทุนต่างชาติ ทั้งบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยต่างชาติและผู้พำนักอาศัยชั่วคราว จะไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วในออสเตรเลีย ยกเว้นโครงการพัฒนาที่มีอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อย 20 หลัง
คณะกรรมการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าผู้ซื้อชาวต่างชาติใช้เงิน 4.9 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.05 แสนล้านบาท) ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย 5,360 รายการ ในช่วงปี 2022-2023 คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 1 ของยอดจำหน่ายทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่หรือที่ดินเปล่า ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งห้ามนี้
โอนีลกล่าวว่านโยบายนี้ไม่ใช่ "สูตรลัด" แก้ไขวิกฤติที่อยู่อาศัยของออสเตรเลีย แต่จะช่วยให้มีที่อยู่อาศัยพร้อมจำหน่ายแก่ผู้ซื้อท้องถิ่นเพิ่มหลายพันหลัง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้ชาวออสเตรเลีย โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวได้มีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าที่อยู่อาศัยจะเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะต้องจัดขึ้นภายในเดือนพฤษภาคมนี้