เดอะเฮก, 26 มิ.ย. (ซินหัว) -- คำแถลงหลังการประชุมสุดยอดประจำปีขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ณ กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันพุธ (25 มิ.ย.) ระบุว่ากลุ่มประเทศสมาชิกนาโตเห็นพ้องจะเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศรายปีเป็นร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2035
งบประมาณการป้องกันประเทศตามเป้าหมายใหม่จะแบ่งเป็น 2 หมวดหลัก ได้แก่ 1) ร้อยละ 3.5 สำหรับงานหลักของการป้องกันประเทศ 2) ร้อยละ 1.5 สำหรับด้านที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เครือข่าย และขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งจะมีการทบทวนแผนในปี 2029 โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์และเป้าหมายที่แก้ไขใหม่
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชื่นชมข้อตกลงดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมฯ พร้อมยืนกรานว่าสหรัฐฯ รับผิดชอบภาระการป้องกันประเทศของพันธมิตรมากเกินควรมานานแล้ว และวิจารณ์สเปนว่าเป็นประเทศเดียวที่ปฏิเสธจะปฏิบัติตามพันธกรณีนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งสเปนอาจต้อง "จ่ายสองเท่า" ผ่านมาตรการทางการค้าที่กำลังเจรจากับสหรัฐฯ
เมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน เผยก่อนการประชุมฯ ว่าสเปนตกลงกับนาโตว่าจะจำกัดงบประมาณการทหารของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ของจีดีพี และเตือนว่าการรีบเพิ่มงบประมาณเป็นร้อยละ 5 จะนำสู่ภาวะราคาสินค้าและการใช้จ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้น ลดการลงทุนในภาคส่วนสำคัญอย่างการศึกษาและการพัฒนาดิจิทัล
ซานเชซระบุว่าเป้าหมายร้อยละ 5 "ไม่สมส่วนและไม่จำเป็น" สำหรับสเปน และเน้นย้ำว่าสเปนเป็นหนึ่งในห้าประเทศสมาชิกนาโตที่จัดส่งทหารเข้าประจำการทั่วโลกมากที่สุด พร้อมสำทับว่าความไม่สมดุลภายในนาโตถือเป็นเรื่องปกติและหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากพิจารณาจากความหลากหลายทางเศรษฐกิจในหมู่พันธมิตร
(แฟ้มภาพซินหัว : มาร์ค รุตเตอร์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต เข้าร่วมการแถลงข่าวระหว่างการประชุมสุดยอดประจำปีของนาโตในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ วันที่ 25 มิ.ย. 2025)