หนานจิง, 16 พ.ค. (ซินหัว) -- หอรำลึกเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่นรายงานว่า "เซี่ยกุ้ยอิง" ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงในภาคตะวันออกของจีน ได้เสียชีวิตด้วยวัย 101 ปี เมื่อวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.) ทำให้จำนวนผู้รอดชีวิตที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ที่ 26 คน
รายงานระบุว่าปี 1937 ก่อนกองกำลังทหารญี่ปุ่นเข้ายึดครองเมืองหนานจิงที่ครอบครัวของเซี่ยอาศัยอยู่ แม่ของเซี่ยพาเธอและพี่น้องหลบหนีการรุกรานของกองกำลังทหารญี่ปุ่น และปล่อยให้ผู้เป็นพ่ออยู่ปกป้องบ้าน ซึ่งพ่อของเซี่ยถูกทหารญี่ปุ่นสังหารระหว่างเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง
หลังจากนั้นแม่ของเซี่ยพยายามดิ้นรนเลี้ยงดูลูกๆ ด้วยตัวเอง โดยเซี่ยได้รอดพ้นความตายอย่างหวุดหวิดถึง 3 ครั้ง และยังมีรอยแผลเป็นชัดเจนบนหน้าผาก ซึ่งเกิดจากการถูกทหารญี่ปุ่นฉุดลากตัวจนศีรษะของเธอกระแทกกับหิน
ทั้งนี้ เซี่ยมักเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่หอรำลึกเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่นเป็นประจำด้วยความหวังว่าสาธารณชนจะจดจำช่วงเวลาอันเลวร้ายของประวัติศาสตร์ตลอดไป โดยเซี่ยเคยกล่าวว่า "ตอนนี้จีนแข็งแกร่งขึ้นและชีวิตของประชาชนดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน"
สำหรับเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังทหารญี่ปุ่นเข้ายึดครองหนานจิง อดีตเมืองหลวงของจีน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 1937 โดยตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ ทหารญี่ปุ่นได้เข่นฆ่าพลเรือนและทหารไร้อาวุธชาวจีนราว 3 แสนราย ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ป่าเถื่อนที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 2
จีนรายงานผู้รอดชีวิตเสียชีวิตแล้ว 6 ราย (นับรวมเซี่ย) ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2025 ทำให้จำนวนผู้รอดชีวิตที่สามารถแบ่งปันเรื่องราวเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งนั้นโดยตรงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ในปี 2014 สภานิติบัญญัติระดับสูงสุดของจีนกำหนดวันที่ 13 ธ.ค. เป็นวันรำลึกถึงเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงระดับชาติ และรัฐบาลจีนได้บันทึกคำบอกเล่าของเหล่าผู้รอดชีวิตในรูปแบบลายลักษณ์อักษรและคลิปวิดีโอ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ถูกจัดเป็นความทรงจำแห่งโลกขององค์การยูเนสโกเมื่อปี 2015
(แฟ้มภาพซินหัว : หอรำลึกเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่น ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 11 มี.ค. 2025)