(แฟ้มภาพซินหัว : นักท่องเที่ยวเล่นสกีที่ลานสกีในตำบลลี่ว์ชงโพ อำเภอปาตง มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน วันที่ 26 ธ.ค. 2024)
อู่ฮั่น, 3 ม.ค. (ซินหัว) -- ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน หลี่หลีได้ตัดสินใจเปลี่ยนบ้านพักอาศัยของครอบครัวเป็นเกสต์เฮาส์ริมทางหลวงในตำบลลี่ว์ชงโพ อำเภอปาตง มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน ด้วยความหวังสร้างรายได้สักเล็กน้อยจากนักเดินทางที่สัญจรผ่านมา
ทว่าฤดูหนาวกลับเป็นคนละเรื่องกับที่คาดหวังไว้ เพราะสภาพอากาศเย็นยะเยือกในระดับทำให้น้ำในท่อแข็งค้างได้บีบบังคับหลี่ วัย 51 ปี ต้องปิดกิจการเกสต์เฮาส์ทั้งหมด แต่มาวันนี้ฤดูหนาวกลายเป็นฤดูกาลที่สร้างเม็ดเงินรายได้ให้เธอเป็นกอบเป็นกำ
ยามมื้อเที่ยงมาถึง ห้องรับประทานอาหารภายในเกสต์เฮาส์ "ลี่จิ่น วาเคชัน รีสอร์ต" ของหลี่มักเต็มไปด้วยนักสกีและนักท่องเที่ยวที่อิ่มอร่อยกับสารพัดเมนูปรุงจากเตาเผาไม้ โดยปี 2025 เป็นปีที่ 9 ของเกสต์เฮาส์แห่งนี้แล้ว และเธอเชื่อว่าการเปิดสกีรีอร์ตลี่ว์ชงโพในปี 2019 คือจุดเปลี่ยน
หลี่เล่าว่าตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเล่นสกีคืออะไร แต่ตอนนี้เกสต์เฮาส์ของเธออัดแน่นด้วยนักสกี โดยหลี่มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่เปิดสกีรีสอร์ต ช่วยให้เธอสามารถปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเปลี่ยนรถตู้คันเก่าเป็นรถใหม่คันกว้างเพื่อรับรองแขก
เดิมทีสกีรีสอร์ตส่วนใหญ่มักสร้างอยู่ตอนเหนือของจีน ที่ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นตามธรรมชาติอันเหมาะสมกับกีฬาฤดูหนาวกลางแจ้ง โดยเฉพาะเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยเทศกาลน้ำแข็งชื่อดัง ประติมากรรมหิมะแกะสลัก และสกีรีสอร์ตขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมสกีรีสอร์ตเริ่มขยับขยายตัวด้วยอานิสงส์จากการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูหนาว ที่ทำให้ผู้คนสนใจเล่นกีฬาฤดูหนาวเพิ่มขึ้น ภูมิภาคตอนใต้ของจีนจึงเริ่มก่อสร้างสกีรีสอร์ตทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงมณฑลหูเป่ยด้วย
สกีรีสอร์ตลี่ว์ชงโพเป็นตัวอย่างของคลื่นลูกใหม่นี้ ที่นี่ตั้งอยู่สูงเหนือระดับน้ำมะเล 1,800 เมตร มีเส้นทางสกี 9 เส้นทาง ความยาว 5 กิโลเมตร และรับรองนักท่องเที่ยวในฤดูท่องเที่ยวเฉลี่ยมากกว่า 1,000 คนต่อวัน ขณะฤดูหิมะตกในปัจจุบัน โรงแรมหลายแห่งในตำบลลี่ว์ชงโพมีอัตราเข้าพักมากกว่าร้อยละ 80
หากย้อนกลับสู่ทศวรรษก่อน ตำบลลี่ว์ชงโพเป็นที่รู้จักดีจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ถ่านหินที่ถดถอยและการเกษตรที่ลุ่มๆ ดอนๆ โดยมู่เจ๋อ เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่น เล่าว่าฤดูหนาวในตอนนั้นสาหัสสากรรจ์มาก ทั้งตำบลเหมือนสิ้นชีวิต แต่การเติบโตของกีฬาฤดูหนาวช่วยพลิกเปลี่ยนเรื่องราวทั้งหมด
มู่กล่าวว่าคลื่นนักท่องเที่ยวช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนหนทาง บ้านเรือน และดึงดูดคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่มักออกไปหางานทำในเมืองใหญ่กลับมาเริ่มต้นธุรกิจที่บ้านเกิดแทน ทำให้จากที่เคยมีเพียงโรงแรม 1 แห่ง กับเกสต์เฮาส์ 6 หลังในปี 2020 กลายเป็นมีโรงแรม 7 แห่ง และเกสต์เฮาส์ 156 หลังในปี 2024
ขณะเดียวกันชาวบ้านท้องถิ่นราว 600 คน ได้งานทำที่สกีรีสอร์ตลี่ว์ชงโพหรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เช่น เปิดให้เช่าอุปกรณ์และร้านอาหารท้องถิ่น โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมสกีสร้างรายได้แก่อำเภอปาตงมากกว่า 200 ล้านหยวน (ราว 1 พันล้านบาท) ต่อปี ทว่ามู่ชี้ว่ายังมีความท้าทายเพราะการพึ่งพาฤดูเดียวนั้นไม่เพียงพอ
ด้วยเหตุนี้ ตำบลลี่ว์ชงโพสร้างความหลากหลายของการบริการ โดยสกีรีสอร์ตจะเปลี่ยนตัวเองเป็นสถานที่เล่นสกีบนพื้นหญ้าและสวนดอกไม้ พร้อมจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม เช่น ฟาร์มผักที่ราบสูง หลังจากหมดฤดูหิมะตกปกคลุม
มู่เสริมว่าตำบลลี่ว์ชงโพจึงไม่ได้พึ่งพาแต่ฤดูหนาวเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงพักผ่อนหย่อนใจในฤดูร้อน และชาวบ้านท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงตลอดปี