ปักกิ่ง, 3 ม.ค. (ซินหัว) -- มติของจีนในการปรับเพิ่มอายุเกษียณตามกฎหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไปมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันพุธ (1 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งแรกในรอบกว่า 70 ปี ขณะที่จีนกำลังเดินหน้าแก้ปัญหาประชากรสูงวัยแบบเชิงรุก

สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้รับรองมติดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน 2024 โดยอายุเกษียณตามกฎหมายสำหรับผู้ชายจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปจาก 60 เป็น 63 ปี ในช่วงระยะ 15 ปี เริ่มต้นวันที่ 1 ม.ค. 2025 ส่วนอายุเกษียณตามกฎหมายสำหรับเจ้าหน้าที่หญิงและแรงงานหญิงจะเพิ่มขึ้นจาก 55 เป็น 58 ปี และ 50 เป็น 55 ปี

จำนวนปีขั้นต่ำของการจ่ายเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญขั้นพื้นฐานเพื่อรับเงินช่วยเหลือรายเดือนจะเพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 20 ปี โดยเพิ่มขึ้น 6 เดือนต่อปี เริ่มต้นปี 2030 ขณะเดียวกันจะอนุญาตประชาชนเกษียณอายุโดยสมัครใจก่อนกำหนดไม่เกิน 3 ปี หลังจากจ่ายเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญครบจำนวนปีขั้นต่ำ

นโยบายใหม่ยังจะอนุญาตบุคคลเลื่อนการเกษียณอายุออกไปอีกหากสามารถบรรลุข้อตกลงกับนายจ้าง แต่การเลื่อนดังกล่าวไม่ควรมากเกิน 3 ปี

เบื้องหลังการปฏิรูปครั้งนี้คือการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 4 ประการเกี่ยวกับโครงสร้างประชากรของจีน ได้แก่ อายุคาดเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ปีการศึกษาที่มากขึ้น ประชากรแก่ตัวลงมากขึ้น และประชากรวัยทำงานลดลง

ข้อมูลล่าสุดเผยว่าอายุคาดเฉลี่ยของประชากรในจีนอยู่ที่ 78.6 ปี และจีนได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับปานกลางแล้ว โดยจำนวนประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 297 ล้านคน เมื่อนับถึงสิ้นปี 2023 คิดเป็นร้อยละ 21.1 ของประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะเพิ่มเป็นมากกว่า 400 ล้านคนภายในราวปี 2035 คิดเป็นกว่าร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด

จีนปรับเปลี่ยนนโยบายในหลายสาขาเพื่อตอบสนองต่อการปฏิรูปการเกษียณอายุและแนวโน้มประชากรโดยรวม โดยระเบียบข้อบังคับฉบับแก้ไขซึ่งบังคับใช้เมื่อวันพุธ (1 ม.ค.) ระบุว่าเพดานจำกัดอายุสูงสุดสำหรับการขอใบอนุญาตขับขี่รถบัสหรือรถบรรทุกขนาดกลางหรือขนาดหนักถูกปรับเพิ่มจาก 60 เป็น 63 ปี

นอกจากนี้ จีนยังเร่งดำเนินแผนริเริ่มการดูแลผู้สูงอายุ โดยที่ประชุมกิจการพลเรือนระดับชาติเมื่อวันจันทร์ (30 ธ.ค.) ได้แจกแจงความก้าวหน้าของการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน บ้านพักคนชรา และการคุ้มครองผู้สูงอายุในปี 2024 รวมถึงมาตรการใหม่ในปี 2025

ทั้งนี้ รัฐบาลกลางได้จัดสรรงบประมาณ 300 ล้านหยวน (ราว 1.41 พันล้านบาท) ในปี 2024 เพื่อสนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านอาหารแก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศ และแผนริเริ่มเพิ่มเติมช่วยจัดตั้งเตียงผู้ป่วยในบ้าน 3.58 แสนเตียง

บทความก่อนหน้า

นักชอปเยือน 'ตลาดตุ๊กตาดารุมะ' รับต้นปีใหม่ในญี่ปุ่น

บทความถัดไป

กระแสนิยม 'กีฬาฤดูหนาว' เปลี่ยนตำบลเงียบเหงาสู่ 'ดินแดนท่องเที่ยว' ในหูเป่ย