(แฟ้มภาพซินหัว : ชาวปาเลสไตน์ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังหลังจากอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา วันที่ 20 ม.ค. 2025)
รอมัลลอฮ์, 24 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) อาเฮด บซีโซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการเคหะของปาเลสไตน์ เปิดเผยว่าการจัดการเก็บกวาดซากปรักหักพังในฉนวนกาซาหลังจากความขัดแย้งกับอิสราเอลระลอกล่าสุดอาจใช้เวลา 3-5 ปี แม้มีเงินทุนและอุปกรณ์เพียงพอ
บซีโซกล่าวว่าระยะเวลาการจัดการเก็บกวาดซากปรักหักพังขึ้นอยู่กับการจัดหาทรัพยากร เงินทุน และอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับการตรวจหาวัตถุระเบิด รวมถึงการขนส่งและรีไซเคิลซากปรักหักพัง
กระทรวงฯ กำลังทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ รวมถึงโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เพื่อดำเนินโครงการกลับมาเปิดใช้ถนนและจัดการซากปรักหักพัง ขณะระยะต่อไปจะเน้นการเก็บกวาดซากปรักหักพังจากอาคารสาธารณะ 150 แห่ง ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และมัสยิด รวมถึงกลับมาเปิดใช้ถนน
บซีโซกล่าวว่าการศึกษาที่อ้างอิงรายงานความเสียหายจากผู้อยู่อาศัยรวม 2.5 แสนฉบับ ได้เสร็จสิ้นแล้ว และมีการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อแก้ไขสถานการณ์ทั้งในเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา พร้อมคาดว่ามีที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหมดหรือบางส่วนราว 4 แสนหลัง และต้องสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ 2 แสนหลัง
กระทรวงฯ จะทำงานร่วมกับกลุ่มหุ้นส่วนเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่เสียหายบางส่วน และจัดหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวสำหรับผู้ที่ที่อยู่อาศัยถูกทำลายทั้งหมด ส่วนครอบครัวที่อาศัยอยู่กับญาติจะได้รับเงินชดเชย
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติประเมินว่าฉนวนกาซาที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน มีซากปรักหักพังรอเก็บกวาดมากกว่า 50 ล้านตัน ซึ่งต้องใช้เงินทุนราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.04 หมื่นล้านบาท)
การประเมินความเสียหายหลังจากมีการหยุดยิงครั้งแรกโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลกาซาพบว่าร้อยละ 88 ของฉนวนกาซาถูกทำลาย และคาดว่ามูลค่าความเสียหายเบื้องต้นสูงกว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.28 ล้านล้านบาท)