เตหะราน, 25 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.) มัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน เปิดเผยระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ว่าอิหร่านพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบระหว่างประเทศและในกระบวนการเจรจา
เปเซชกียานระบุว่าอิหร่านคาดหวังให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถ่ายทอดเจตนารมณ์ไปยังสหรัฐฯ ว่าอิหร่านแสวงหาเพียงสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมาย และไม่มีเป้าหมายจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด พร้อมระบุว่าอิหร่านมีศักยภาพตอบโต้การโจมตีทางทหารของอิสราเอล และหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลจะยังคงมีผลต่อไป
นอกจากนี้ เปเซชกียานแสดงความพร้อมของอิหร่านในการกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของเสถียรภาพในภูมิภาค โดยชี้ว่าอิหร่านเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐทุกแห่ง และเชื่อว่าการสร้างภูมิภาคนี้ให้เข้มแข็งได้จะต้องอาศัยสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งต้องไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก
ด้านโมฮัมเหม็ดกล่าวว่าการป้องกันตนเองเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกประเทศ อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคล้วนเป็นเพื่อนบ้านของกันและกันเสมอมา และควรร่วมกันหาวิธีที่จะรับรองอนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับประชาชนผ่านความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พร้อมสนับสนุนอิหร่านในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อหลายพื้นที่ในอิหร่าน อาทิ ฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์และฐานทัพ ทำให้ผู้บัญชาการระดับสูง นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนเสียชีวิต โดยอิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนหลายระลอกเข้าโจมตีอิสราเอล ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตและเกิดความเสียหายอย่างหนัก
ต่อมาในวันเสาร์ (21 มิ.ย.) กองทัพอากาศสหรัฐฯ โจมตีฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน อิหร่านจึงได้ยิงขีปนาวุธตอบโต้ไปยังฐานทัพอัลอุไดด์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ ในกาตาร์ เมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.)
หลังการโจมตีของอิหร่าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าอิหร่านและอิสราเอลจะเริ่มการหยุดยิงราว 04.00 น. ของวันอังคาร (24 มิ.ย.) ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT) ซึ่งต่อมาทั้งอิหร่านและอิสราเอลออกมายืนยันว่าการหยุดยิงได้เริ่มขึ้นแล้ว
(แฟ้มภาพซินหัว : มัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน แถลงข่าวในกรุงเตหะรานของอิหร่าน วันที่ 16 ก.ย. 2024)