(แฟ้มภาพซินหัว : คนยืนอยู่ริมถนนในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ วันที่ 1 พ.ค. 2025)

เวลลิงตัน, 13 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (12 พ.ค.) รัฐบาลนิวซีแลนด์รายงานว่าการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีเป่าลมหายใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมีส่วนช่วยลดการเสียชีวิตบนท้องถนนที่มีสาเหตุจากแอลกอฮอล์เกือบร้อยละ 40 ในปี 2024

คำแถลงจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ เนื่องในสัปดาห์ความปลอดภัยบนท้องถนน ระบุว่าโครงการการลงทุนด้านการตรวจตราบนถนนกำลังสัมฤทธิ์ผลลัพธ์อันดี โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ลดลงจาก 92 รายในปี 2023 เหลือ 57 รายในปี 2024 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014

คริส บิชอป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของนิวซีแลนด์ กล่าวว่ามีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีเป่าลมหายใจในปี 2024 มากกว่า 4.1 ล้านครั้ง ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าปี 2023 เกือบ 9 แสนครั้ง

ด้านมาร์ก มิตเชลล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตำรวจของนิวซีแลนด์ กล่าวว่าแอลกอฮอล์และยาเสพติดมีส่วนส่งเสริมการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสบนท้องถนน ขณะการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจทั้งแบบสุ่มและแบบคัดเลือกได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันผู้คนไม่ให้เมาแล้วขับ

อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุที่เกี่ยวกับยาเสพติดยังคงเป็นปัญหาน่ากังวล โดยมีผู้เสียชีวิต 87 ราย ที่เกี่ยวกับเหตุผู้ขับขี่มีผลตรวจสารเสพติดเป็นบวก ในปี 2024 และผู้เสียชีวิต 21 ราย ที่เกี่ยวกับเหตุผู้ขับขี่มีผลตรวจทั้งสารเสพติดและแอลกอฮอล์เป็นบวก

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งอนุญาตให้ตำรวจเริ่มต้นตรวจหาสารเสพติดจากผู้ขับขี่ในปีนี้

นอกจากนั้นรัฐบาลนิวซีแลนด์ยังเดินหน้าปราบปรามการใช้รถใช้ถนนที่เป็นภัยกับสังคมและการแข่งรถบนถนนสาธารณะอย่างผิดกฎหมาย โดยจะออกกฎหมายใหม่ในช่วงกลางปี 2025 เพื่อทำลายหรือริบยานพาหนะของผู้ขับขี่ที่หลบหนีความผิด เด็กแว้น หรือผู้มีส่วนร่วมข่มขู่คุกคามผู้อื่น

บทความก่อนหน้า

ศึกษาพบ 'ยาลดนน.แบบฉีด' ลดเสี่ยงมะเร็งจากโรคอ้วนมากกว่า 'ผ่าตัด

บทความถัดไป

ชาวปาเลสไตน์ตรวจสอบเศษซาก 'โรงเรียน' ที่ถูกโจมตี