(แฟ้มภาพซินหัว : โคมไฟแขวนประดับตามท้องถนนเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย วันที่ 7 ก.ย. 2024)
แคนเบอร์รา, 3 ต.ค. (ซินหัว) -- กระทรวงศึกษาธิการของออสเตรเลียรายงานว่าจำนวนการยื่นขอวีซ่าของนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติเพื่อศึกษาเล่าเรียนในออสเตรเลียลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากรัฐบาลพยายามลดจำนวนคนเข้าเมือง โดยจำนวนการยื่นขอวีซ่านักเรียนนักศึกษาจากต่างชาติ ช่วงเดือนสิงหาคม 2024 อยู่ที่ 15,270 คน ลดลงจาก 30,703 คนในเดือนสิงหาคม 2023
ขณะจำนวนการยื่นขอวีซ่านักเรียนนักศึกษาจากต่างชาติ ช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 อยู่ที่ 18,697 คน ลดลงจาก 36,207 คนในเดือนกรกฎาคม 2023 โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลขึ้นค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่านักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติจาก 710 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 16,000 บาท) เป็น 1,600 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 36,000 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม รัฐบาลออสเตรเลียประกาศแผนการจำกัดจำนวนการรับสมัครนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติของมหาวิทยาลัยและสถาบันอาชีวศึกษาในปี 2025 อยู่ที่ 2.7 แสนคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ตัดลดจำนวนคนอพยพเข้าเมืองที่สูงเป็นประวัติการณ์ของออสเตรเลีย
ข้อมูลใหม่ชี้ว่าการยื่นขอวีซ่าจากอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศต้นทางนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของออสเตรเลีย ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2024 รวมกันอยู่ที่ 4,383 คน ลดลงร้อยละ 66.4 เมื่อเทียบกับจำนวนของช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2023 ซึ่งรวมอยู่ที่ 13,047 คน
ส่วนการยื่นขอวีซ่าจากฟิลิปปินส์ลดลงจาก 5,126 คน อยู่ที่ 849 คน และการยื่นขอวีซ่าจากปากีสถานลดลงจาก 4,234 คน อยู่ที่ 616 คน ขณะการยื่นขอวีซ่าจากจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นทางนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ลดลงไม่ถึงร้อยละ 10 ในช่วงปี 2023-2024
ด้านยูนิเวอร์ซิตีส์ ออสเตรเลีย (Universities Australia) หน่วยงานกำกับควบคุมมหาวิทยาลัยระดับสูงสุดของออสเตรเลีย เตือนว่าการกำหนดเพดานจำนวนนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติของรัฐบาลอาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงอาจทำให้เกิดการเลิกจ้างงานในอุตสาหกรรมอุดมศึกษาหลายพันอัตรา