ปักกิ่ง, 19 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) สำนักข่าวซินหัวของจีนเผยแพร่รายงานคลังสมองหัวข้อ "การส่งเสริมการพัฒนาและความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์ผ่านการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกัน" ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โดยเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรมและการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อรับมือความท้าทายที่ส่งผลต่อการพัฒนาของอารยธรรมมนุษย์ พร้อมย้ำความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการส่งเสริมความรุ่งเรืองร่วมกันของอารยธรรมทั่วโลก
จีนสนับสนุนแนวคิดด้านอารยธรรมที่ยึดหลักความเสมอภาค การเรียนรู้ร่วมกัน การเจรจา และการเปิดกว้าง รวมถึงให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนมากกว่าการแบ่งแยก และการยอมรับซึ่งกันและกันมากกว่าความคิดที่ว่าวัฒนธรรมใดเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น
อารยธรรมมนุษย์ ณ จุดเปลี่ยนสำคัญ
เทศกาลตรุษจีนปี 2025 นับเป็นเทศกาลตรุษจีนครั้งแรกนับตั้งแต่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้เทศกาลดังกล่าวเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งการเฉลิมฉลองตรุษจีนที่แพร่หลายทั่วโลกสะท้อนถึงการให้การยอมรับมรดกทางวัฒนธรรมจีนในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ร่วมกันในโลกที่เต็มไปด้วยความแตกแยก
สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวไว้ในคำปราศรัยครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 2014 ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การยูเนสโกที่กรุงปารีส ระบุว่าเราทุกคนจำเป็นต้องส่งเสริมให้แต่ละอารยธรรมเคารพซึ่งกันและกันและอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว พร้อมผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งจะเป็นสะพานแห่งมิตรภาพระหว่างผู้คน เป็นแรงผลักดันเบื้องหลังสังคมมนุษย์ และเป็นสายใยแข็งแกร่งของสันติภาพโลก ซึ่งการเรียกร้องถึงความเคารพซึ่งกันและกันในหมู่อารยธรรมของสีจิ้นผิงนั้นยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อโลกกำลังเผชิญห้วงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
รายงานย้ำว่ามนุษยชาติกำลังเผชิญสารพัดความท้าทายระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความไม่มั่นคงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น หรือความขัดแย้งทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งล้วนส่งผลให้อารยธรรมมนุษย์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ห้วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาสำหรับการลงมือทำ ดังที่หลายอารยธรรมสามารถผ่านพ้นวิกฤตมาได้ผ่านการเจรจาและความร่วมมือ
มุมมองของจีน
เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ จีนได้เสนอแผนริเริ่มระดับโลกหลายประการเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาอย่างสันติ โดยแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (GDI) แผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (GSI) และแผนริเริ่มอารยธรรมระดับโลก (GCI) ล้วนเป็นกรอบงานที่เอื้อให้นานาประเทศสามารถร่วมมือแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเหล่านี้ได้
จีนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความก้าวหน้าและเศรษฐกิจของโลก โดยมีส่วนส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกราวร้อยละ 30 มานานหลายปี อีกทั้งแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาของตนผ่านโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกว่า 6,000 โครงการในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเน้นที่การบรรเทาความยากจน เทคโนโลยีการเกษตร และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในด้านความมั่นคงโลก จีนได้เสนอแนวคิดความมั่นคงที่เป็นสากล ครอบคลุม และยั่งยืน โดยจีนมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และมุ่งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งผ่านการเจรจา ตั้งแต่ปัญหาในยูเครนไปจนถึงความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ จีนยังได้จัดตั้งแพลตฟอร์มสำหรับการเจรจาข้ามวัฒนธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้แต่ละอารยธรรมได้เสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือ ซึ่งต่อมาในเดือนมิถุนายน 2024 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ได้รับรองมติที่จีนเสนอให้กำหนดวันที่ 10 มิ.ย. เป็นวันสากลแห่งการเสวนาระหว่างอารยธรรม
ความสลักสำคัญของความร่วมมือระดับโลก
รายงานข้างต้นเน้นย้ำความจำเป็นของความร่วมมือระดับโลกในการเอาชนะความแบ่งแยกทางวัฒนธรรมและอุดมการณ์ ผ่านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางความคิด สิ่งนี้จะทำให้มนุษยชาติสามารถทำงานเพื่อก้าวสู่โลกที่กลมเกลียวและรุ่งเรืองยิ่งขึ้นได้
ความเคารพและความเข้าใจซึ่งกันและกันที่มีที่มาจากการแลกเปลี่ยนเหล่านี้ จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับระเบียบโลกใหม่ที่อยู่บนหลักของสันติภาพ การพัฒนา ความเป็นธรรม และค่านิยมอื่นๆ ร่วมกันของมนุษย์
(แฟ้มภาพซินหัว : เด็กน้อยเขียนตัวอักษรจีนคำว่าฝูซึ่งแปลว่าโชคดี ระหว่างนิทรรศการปีนักษัตรจีนที่ศูนย์วัฒนธรรมจีนในกรุงเบลเกรดของเซอร์เบีย วันที่ 12 ก.พ. 2025)
(ภาพจากภารกิจรักษาเสถียรภาพของสหประชาชาติในดีอาร์คองโก : กองกำลังของจีนประจำภารกิจรักษาเสถียรภาพของสหประชาชาติในดีอาร์คองโก จัดพิธีถ่ายโอนทรัพย์สินในจังหวัดกีวูใต้ของดีอาร์คองโก วันที่ 29 เม.ย. 2024)
(แฟ้มภาพซินหัว : วัยรุ่นจากจีนและฝรั่งเศสร่วมเรียนขับร้องที่โรงเรียนในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน วันที่ 26 ก.ค. 2024)