(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.6 ตามมาตราแมกนิจูด ในเขตเชียนเจอร์ จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย วันที่ 27 พ.ย. 2022)
จาการ์ตา, 9 ม.ค. (ซินหัว) -- ฟาห์รี ฮัมซาห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเคหะและการตั้งถิ่นฐานของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่ารัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนเพิ่มความเข้มงวดในมาตรฐานการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ เพื่อพยายามลดผลกระทบร้ายแรงจากแผ่นดินไหวชนิดเมกะทรัสต์ (megathrust earthquakes) ซึ่งมีความรุนแรงมากที่สุดในบรรดาแผ่นดินไหวทุกประเภท
ฮัมซาห์เผยกับผู้สื่อข่าวว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยในอนาคตจะให้ความสำคัญกับการต้านทานแผ่นดินไหว โดยกระทรวงฯ จะกำหนดให้การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและอาคารทั้งหมดอิงตามการวิจัยที่ดำเนินการโดยรัฐบาลเพื่อดูว่าโครงการนั้นๆ คุ้มค่าที่จะดำเนินการสร้างหรือไม่ มาตรการนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้มีบ้านเรือนเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวอีกต่อไป
อินโดนีเซียกำลังเร่งทำงานเพื่อรับมือโอกาสการเกิดแผ่นดินไหวแบบเมกะทรัสต์ที่อาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิรุนแรง โดยเมื่อเดือนกันยายน 2024 หน่วยงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์ประกาศว่าแผ่นดินไหวแบบดังกล่าวมีแนวโน้มเกิดขึ้นใน 2 พื้นที่ ได้แก่ ช่องแคบซุนดาและบริเวณรอบหมู่เกาะเมนตาไว-ซิเบรุต ซึ่งทั้งสองภูมิภาคนี้เป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย โดยมีช่องว่างแผ่นดินไหวที่ยังคงซ่อนตัวอยู่เป็นเวลาหลายร้อยปี
อนึ่ง อินโดนีเซียตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟในมหาสมุทรแปซิฟิก จัดเป็นหนึ่งใน 35 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุด และมักประสบกับแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวและภูมิภาคภูเขาไฟมีพลัง (active volcano) โดยยังคงมีภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ 127 ลูก