โรม, 7 ก.ค. (ซินหัว) – เมื่อไม่นานนี้ แอนเดรีย อัปโปลโลนี (Andrea Appolloni) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ จากมหาวิทยาลัยโรม ทอร์ เวอร์กาตา (University of Rome Tor Vergata) ของอิตาลี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า ท่ามกลางความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นและแรงกดดันทางเศรษฐกิจในระดับโลก อิตาลีกำลังเร่งเดินหน้ากระชับความร่วมมือกับจีนเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน

“จีนมีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า และการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถตอบโจทย์ของอิตาลีในการเร่งผลักดันเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านเทคโนโลยีที่อิตาลียังขาดอยู่”

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมา อิตาลีเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงหลายระลอก ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนัก ภาคธุรกิจต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของยุโรปก็ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ ด้วยความต้องการสินค้าส่งออกที่ลดลงและข้อจำกัดด้านเงินทุนสำหรับนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ อิตาลีได้เดินหน้ากระชับความร่วมมือกับจีนอย่างจริงจัง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันออก “แผนปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐอิตาลี (2024-2027)” ซึ่งให้ความสำคัญกับการร่วมมือด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด นโยบายสิ่งแวดล้อม การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพ

อัปโปลโลนีย้ำว่า ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจะช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถรับมือกับความปั่นป่วนของห่วงโซ่อุปทานและแรงกดดันทางการค้าจากเวทีโลกได้ดียิ่งขึ้น หากสามารถปรับมาตรฐานให้สอดคล้องกัน และสร้างความไว้วางใจระหว่างกันได้ ก็จะสามารถเปลี่ยนความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโตที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ในบริบทที่การแข่งขันระดับโลกและภูมิรัฐศาสตร์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การที่อิตาลีหันมาให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสีเขียวกับจีนอย่างจริงจัง อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในระยะยาว และเพื่อสานต่อความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม

อัปโปลโลนีเปิดเผยด้วยว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ อิตาลีและจีนจะร่วมกันจัดสัปดาห์วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมจีน-อิตาลีที่กรุงปักกิ่ง พร้อมทั้งจัดเวทีผู้นำมหาวิทยาลัยจีน-อิตาลี เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ

เขาทิ้งท้ายว่า การพบปะแลกเปลี่ยนเช่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ร่วมกันในสาขายุทธศาสตร์สำคัญ “เทคโนโลยีคือพลังผลักดันความยั่งยืน และผมมองเห็นศักยภาพมหาศาลที่จีนและอิตาลีจะสามารถเรียนรู้จากกันและกันได้”

(เนื้อหาโดย Gao Jingyan, เรียบเรียงโดย Su Dan, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/346330.html)

บทความก่อนหน้า

‘บีวายดี’ ขยายโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ในฮังการี

บทความถัดไป

ความสำเร็จของลาบูบู้ สะท้อนการใช้จ่ายที่ขับเคลื่อนด้วย ‘อารมณ์’