เสิ่นหยาง, 7 เม.ย. (ซินหัว) -- บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี ประกาศเปิดตัวกลยุทธ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบครบวงจร 360 องศาในจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการผสานเอไอเข้ากับการดำเนินงานทุกด้านภายในประเทศ

กลยุทธ์ใหม่นี้เน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ และการสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในห่วงโซ่อุปทาน โดยโอลิเวอร์ ซิปเซอ (Oliver Zipse) ประธานกรรมการบริหารของบริษัทฯ ระบุในงานประชุมเพื่อการพัฒนาของจีน 2025 ว่าบริษัทฯ มองว่าเอไอจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการสร้างผลิตภัณฑ์การเดินทางที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และให้ความสำคัญกับมนุษย์มากขึ้น

บริษัทฯ วางแผนจะนำโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และระบบอัจฉริยะมาใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตในจีนเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 เพื่อยกระดับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างรถกับผู้ขับขี่ให้เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ยังเผยว่ารถยนต์รุ่นนอย คลาสเซอ (Neue Klasse) รุ่นใหม่ จะมาพร้อมโซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะจากหัวเหวย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีศูนย์วิจัยและพัฒนาในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหยาง และหนานจิง ซึ่งนับเป็นเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ นอกเยอรมนี

ฌอน กรีน ประธานกรรมการบริหารของบริษัทฯ ประจำภูมิภาคจีน ยืนยันว่าบริษัทฯ จะมุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยีใหม่ผ่านยุทธศาสตร์เอไอ เพื่อมอบประสบการณ์อัจฉริยะครอบคลุมทุกสถานการณ์ให้กับผู้ใช้ชาวจีน

บริษัทฯ ยังเป็นลูกค้ารายแรกของซีเอทีแอล (CATL) ยักษ์ใหญ่ด้านแบตเตอรี่ของจีนตั้งแต่ปี 2012 และมีแผนที่จะขยายความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนในด้านเอไอและระบบสั่งงานด้วยเสียง โดยตั้งเป้าพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างตรงจุด

นับตั้งแต่ปี 2010 บริษัทฯ ได้ลงทุนในฐานการผลิตที่เสิ่นหยางรวมทั้งสิ้น 1.16 แสนล้านหยวน (ราว 5.48 แสนล้านบาท) ทำให้เสิ่นหยางกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ ทั่วโลก

ที่มา : https://en.imsilkroad.com/p/344927.html

บทความก่อนหน้า

ทีมกู้ภัยยูนนานกลับจีน หลังเสร็จภารกิจในเมียนมา

บทความถัดไป

สำรวจพบชาวเกาหลีใต้เกือบ 8 ใน 10 ยอมรับคำตัดสินถอดถอน 'ยุน ซอก-ยอล