วอชิงตัน, 28 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.) กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงานประจำราว 10,000 คน อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินผู้เสียภาษี 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.1 หมื่นล้านบาท) ต่อปี
เมื่อพิจารณาความพยายามการปรับโครงสร้างองค์กรอื่นๆ ของกระทรวงฯ อาทิ การเกษียณอายุก่อนกำหนดและโครงการฟอร์ก อิน เดอะ โรด (Fork in the Road) จะทำให้จำนวนพนักงานประจำลดลงจาก 82,000 คน เหลือ 62,000 คน
อนึ่ง ฟอร์ก อิน เดอะ โรด เป็นโครงการที่รัฐบาลจ้างพนักงานออก โดยเสนอมอบค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนราว 8 เดือนให้พนักงานที่ร่วมโครงการ
รายงานระบุว่ากระทรวงฯ จะปรับลดหน้าที่การทำงานจาก 28 หน่วยงานในปัจจุบัน ให้เหลือ 15 หน่วยงาน ขณะสำนักงานระดับภูมิภาคจะลดลงจาก 10 หน่วยงานเหลือ 5 หน่วยงาน ด้านโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่าแม้ว่าพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานรัฐที่ทุ่มเทและมีความสามารถ แต่การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้เสียภาษีและผู้รับบริการ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขตกเป็นเป้าหมายล่าสุดของการเลิกจ้างโดยกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2025 โดยมีภารกิจลดการใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในหลายหน่วยงานของรัฐบาล ทว่าการตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ได้สร้างความกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับระบบสาธารณสุขและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ