ปักกิ่ง, 23 ธ.ค. (ซินหัว) – รายงานที่เผยแพร่ในการประชุมการรับมือข้อร้องเรียนสาธารณะอย่างรวดเร็วแห่งปักกิ่ง ประจำปี 2024 ระบุว่าบริการสายด่วน 115 ของเบอร์ลิน เป็นสายด่วนที่ให้ความสำคัญกับบริการอัจฉริยะ และได้กลายเป็นต้นแบบระดับโลกในด้านการใช้นวัตกรรม

รายงานดังกล่าวเปิดเผยโดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของสำนักข่าวซินหัว (Xinhua Research Center for Digital Government) และสถาบันรัฐบาลดิจิทัลและธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยชิงหัว (Institute for Digital Government and Governance of Tsinghua University) โดยได้ประเมินผลการดำเนินงานของสายด่วนในเมืองผ่านตัวชี้วัดสามระดับ เพื่อแก้ไขปัญหาที่บริการสายด่วนในเมืองทั่วโลกต้องเผชิญร่วมกัน

รายงานได้แบ่งแพลตฟอร์มสายด่วน 20 สายทั่วโลกออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทบูรณาการ ประเภทนวัตกรรม ประเภทโดดเด่น และประเภทครอบคลุม โดยพิจารณาจากความสำเร็จในด้านกระบวนการ ความร่วมมือ ความอัจฉริยะ และการบริหารจัดการตอบสนองเหตุด่วน โดยสายด่วน 115 ของเบอร์ลินโดดเด่นในฐานะผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลของเยอรมนี เพราะเน้นการสนับสนุนทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

สายด่วนดังกล่าวได้พัฒนาบริการอัจฉริยะผ่านระบบแชตบอตและระบบสื่อสารด้วยเสียง 115 ซึ่งช่วยตอบสนองความต้องการสาธารณะที่เพิ่มมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การจัดสรรทรัพยากร ทั้งยังรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลคำถามของประชาชนแบบเรียลไทม์ เพื่อที่ตะทำความเข้าใจความต้องการและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการได้อย่างเหมาะสม

มีการใช้ข้อมูลประวัติและเก็บข้อเสนอแนะจากประชาชนแบบเรียลไทม์ ระบบจึงสามารถคาดการณ์ความต้องการบริการในอนาคต ช่วยให้รัฐบาลกำหนดนโยบายและวางแผนทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สายด่วนเบอร์ลินยังคงมุ่งมั่นให้บริการเฉพาะบุคคล โดยตั้งเป้าที่จะรับสายภายในเวลา 20 วินาที ให้ได้มากถึงร้อยละ 80

รายงานฉบับนี้หยิบยกตัวอย่างสายด่วนของเบอร์ลินมาเป็นต้นแบบที่มีคุณค่า พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ของสายด่วนอีก 19 เมืองทั่วโลก เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีและกลยุทธ์การบริหารจัดการที่สามารถช่วยปรับปรุงบริการสายด่วนในระดับโลก

(เรียบเรียงโดย Duan Jing, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/343622.html)

บทความก่อนหน้า

จีนสร้างเขตนำร่องกว่า 10 แห่ง ผลักดันการค้า ‘การบริการ’ โดดเด่นในปี 2024

บทความถัดไป

รายงานชี้ ‘บริการสายด่วนโตเกียว’ เอื้อการสื่อสารภาครัฐ-ปชช.