(แฟ้มภาพซินหัว : คนเดินบนถนนในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 12 พ.ค. 2022)
นิวยอร์ก, 9 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) วารสารเนเจอร์ซิตีส์ (Nature Cities) เผยแพร่ผลวิจัยใหม่ที่พบว่าแผ่นดินใต้กลุ่มเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ กำลังยุบตัว ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่กำลังคุกคามสิ่งปลูกสร้าง ถนน และทางรถไฟ แต่การยุบตัวหรือการทรุดตัว (subsidence) ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเดียวกันทุกเมือง หรือแบบเดียวกันทั่วทั้งเมืองใดเมืองหนึ่ง
คณะนักวิจัยทำแผนผังเพื่ออธิบายว่าแผ่นดินเคลื่อนตัวแนวดิ่งอย่างไรใน 28 เมืองที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐฯ และพบว่าเมืองทั้งหมดนี้กำลังยุบตัวเหมือนเตียงนอนเป่าลมที่ยุบตัวลงตรงกลาง โดยมี 25 เมืองมีแผ่นดินกำลังยุบตัวราว 2 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด และประชากรประมาณ 34 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 10 ของประชากรสหรัฐฯ อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เกิดการยุบตัว
ทั้งนี้ กลุ่มเมืองที่มีการยุบตัวเป็นวงกว้างมากที่สุด ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 98 ของพื้นที่เมือง ได้แก่ ชิคาโก ดัลลัส โคลัมบัส โอไฮโอ ดีทรอยต์ นิวยอร์ก อินเดียแนโพลิส ชาร์ลอตต์ เดนเวอร์ ฮิวสตัน และฟอร์ตเวิร์ท
หลายเมืองของสหรัฐฯ ที่เกิดแผ่นดินยุบตัวตั้งอยู่ตอนในของประเทศ ซึ่งปกติการทรุดตัวนี้เป็นปัญหาน่ากังวลของเมืองริมชายฝั่งทะเลที่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจไหลเข้าท่วมพื้นที่ง่ายกว่า แต่คณะนักวิจัยชี้ว่าการทรุดตัวของแผ่นดินตอนในประเทศลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงทำให้น้ำท่วมรุนแรงขึ้นในฤดูพายุ