โตเกียว, 5 ต.ค. (ซินหัว) -- กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นได้สั่งการให้ตรวจสอบระเบิดที่ยังไม่ทำงานในท่าอากาศยานภายในประเทศอีก 3 แห่ง นอกเหนือจากท่าอากาศยานมิยาซากิซึ่งเกิดเหตุระเบิดจากวัตถุระเบิดที่กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธ (2 ต.ค.) ที่ผ่านมา

เมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) เท็ตสึโอะ ไซโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่าท่าอากาศยานสามแห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานเซ็นไดในจังหวัดมิยากิทางตะวันออกเฉียงเหนือ ท่าอากาศยานฟุกุโอกะในจังหวัดฟุกุโอกะทางตะวันตกเฉียงใต้ และท่าอากาศยานนาฮะในจังหวัดโอกินาวาทางตอนใต้สุด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นฐานทัพอากาศของกองทหารจักรวรรดิญี่ปุ่น

อนึ่ง ระเบิดขนาด 250 กิโลกรัมของกองทัพสหรัฐฯ เกิดระเบิดขึ้นที่ท่าอากาศยานมิยาซากิทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ส่งผลให้มีเศษยางมะตอยกระจัดกระจายทั่วรัศมีราว 200 เมตร รวมถึงบริเวณรันเวย์ โดยมีเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านใกล้กับจุดระเบิดก่อนหน้านั้นสองนาที แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

รายงานระบุว่ากระทรวงฯ จะใช้แม่เหล็กสำรวจบริเวณทางขับของเครื่องบิน (taxiway) รวมไปถึงรันเวย์และลานจอดของท่าอากาศยานตั้งแต่วันจันทร์ (7 ต.ค) เป็นต้นไป และจะไม่กระทบต่อตารางการบิน

สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่านอกจากท่าอากาศยานมิยาซากิแล้วยังพบระเบิดที่ยังไม่ทำงานในอีกสามสนามบิน โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานนาฮะ ซึ่งพบระเบิดดังกล่าวแล้วถึง 8 ลูกในปี 2024 โดยหนึ่งในนั้นเพิ่งพบเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.)

บทความก่อนหน้า

สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า รองรับผู้โดยสารกว่า 20 ล้านคนแล้ว ในปี 2024

บทความถัดไป

โรคมะเร็ง-หัวใจ-ปอดอักเสบ' 3 สาเหตุหลักคร่าชีวิตชาวเกาหลีใต้ในปี 2023