ออตตาวา, 20 มี.ค. (ซินหัว) -- กระแสความรักชาติที่พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคชาวแคนาดา ซึ่งมีแรงหนุนจากความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของสหรัฐฯ ในแคนาดา
สื่อท้องถินของแคนาดารายงานว่า ผู้ประกอบการทัวร์ของสหรัฐฯ รายงานยอดจองลดลงราวร้อยละ 85 ขณะผู้ประกอบการโรงกลั่นสุราสูญเสียข้อตกลงสำคัญไป ส่วนร้านจำหน่ายของชำของแคนาดาพบยอดขายผลิตภัณฑ์ในประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10
อัตราแลกเปลี่ยนและนโยบายการค้าที่ผันผวนของสหรัฐฯ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชาวแคนาดายกเลิกการเดินทางเยือนสหรัฐฯ นอกจากนี้ วาทะเกี่ยวกับการทำให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ ยังส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมาก
สมาคมการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ออกเตือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่านโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ อาจกระทบต่อการเดินทางและการใช้จ่ายของชาวแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งนักเดินทางต่างชาติสำคัญของสหรัฐฯ โดยจำนวนนักเดินทางชาวแคนาดาที่ลดลงร้อยละ 10 อาจทำให้ปริมาณการเดินทางลดลง 2 ล้านครั้ง ตัวเลขการใช้จ่ายลดลง 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.07 หมื่นล้านบาท) และอาจกระทบตำแหน่งงาน 14,000 อัตรา
รายงานระบุว่ากระแสเลือกซื้อสินค้าของแคนาดาในตอนนี้ยังส่งผลต่อผู้ค้าปลีกด้วย โดยผู้ค้าปลีกอาหารของแคนาดารายงานยอดขายผลิตภัณฑ์แคนาดาเพิ่มขึ้น และยอดซื้อสินค้าของสหรัฐฯ ลดลง เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนยอดขายรวมในช่วงสัปดาห์ก่อน
แคนาดาเป็นตลาดสำคัญสำหรับสุรา ไวน์ และเบียร์ของสหรัฐฯ บาร์เทนเดอร์และพนักงานขายปลีกในอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ จะเผชิญการเลิกจ้างอย่างมีนัยสำคัญหากความตึงเครียดด้านการค้ากับแคนาดายังคงดำเนินต่อไป
ปิแอร์ คลีรักซ์ รองประธานฝ่ายวิจัยและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาธุรกิจแห่งแคนาดา เผยว่าหากแต่ละครัวเรือนของแคนาดาเลือกใช้จ่ายเงิน 25 ดอลลาร์แคนาดา (ราว 586 บาท) ต่อสัปดาห์ไปกับผลิตภัณฑ์ของแคนาดาเองแทนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ต่างชาติ จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของแคนาดาร้อยละ 0.7 และสร้างงาน 60,000 อัตรา
(แฟ้มภาพซินหัว : ป้ายสัญลักษณ์ชอป แคนาเดียนปรากฏที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา วันที่ 4 มี.ค. 2025)