(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กำลังนำคนไข้ส่งโรงพยาบาลในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 13 ธ.ค. 2021)
นิวยอร์ก, 19 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่าแม้แผนการของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะลดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลฝ่ายพลเรือนหลายพันคนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่การลดจำนวนบุคลากรกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เป็นวิกฤตสาธารณสุขครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนเป็นพิเศษ
รายงานระบุว่าคณะผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเลิกจ้างจะซ้ำเติมภาวะขาดแคลนบุคลากรสาธารณสุข ทำให้ชาวอเมริกันตกอยู่ในความเสี่ยงหากเกิดวิกฤตสาธารณสุขขึ้นอีกครั้ง รวมถึงตัดตอนกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานอื่นๆ ที่กระทรวงฯ กำกับดูแลอยู่
นอกจากนั้นการเลิกจ้างยังสร้างความตื่นตระหนกแก่บัณฑิตจบใหม่ที่มองหางานในแวดวงสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ และการเลิกจ้างนี้เกิดขึ้นขณะโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ผู้ไม่เชื่อในวัคซีน กำลังจะเริ่มต้นปฏิบัติงานตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติกังวลว่าเขาอาจมุ่งบีบให้เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสลาออก
รายงานเสริมว่าการเลิกจ้างตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อบุคลากรการแพทย์ทุกแขนง ทั้งนักวิทยาศาสตร์และนักล่าโรค คณะผู้บริหารที่กำกับดูแลข้อเสนอ นักวิเคราะห์ที่คิดค้นวิธีการใหม่ๆ ในการลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ที่พยายามปรับปรุงระบบติดตามข้อมูลสุขภาพอันล้าสมัยของรัฐบาล