(แฟ้มภาพซินหัว : ห้องโดยสารภายในยานยนต์ของแบรนด์เชอรี ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนที่งานสมาร์ต เนชัน เอ็กซ์โป ปี 2024 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย วันที่ 19 พ.ย. 2024)
กัวลาลัมเปอร์, 29 ม.ค. (ซินหัว) -- ธนาคารเพื่อการลงทุนเมย์แบงก์ (Maybank Investment Bank) กล่าวว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของมาเลเซียกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากการเติบโตของผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้า โดยการลงทุนในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนปลายน้ำ เช่น โชว์รูมและศูนย์บริการ ควบคู่กับความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการประกอบยานยนต์ไฟฟ้า
มาตรการจูงใจสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแบบประกอบสำเร็จที่สิ้นสุดลง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจัดหาชิ้นส่วนในท้องถิ่น ซึ่งจะสร้างโอกาสในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าขั้นต้น
เมย์แบงก์ประกาศพื้นที่การลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ 4 แห่งในคาบสมุทรมาเลเซีย ได้แก่ รัฐปะลิส รัฐเปรัก รัฐปะหัง และรัฐยะโฮร์ พร้อมเผยว่าผู้ประกอบการด้านชิ้นส่วนยานยนต์ท้องถิ่นสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านความร่วมมือทางเทคนิคและการพัฒนาทักษะ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
แม้มีการคาดการณ์ว่าการรวมตัวของผู้รับจ้างผลิตสินค้าตามแบบกำหนด (OEMs) ในระดับโลกจะสร้างผลกระทบเป็นระลอก และส่งผลต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ แต่รายงานชี้ว่าตลาดยานยนต์ของมาเลเซียยังคงมีความยืดหยุ่น โดยแบรนด์ท้องถิ่นอย่างเปอโรดัว (Perodua) และโปรตอน (Proton) ครองสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3 ของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เมย์แบงก์เสริมว่าสถานการณ์เหล่านี้สร้างความท้าทายสองด้านให้กับผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่น ซึ่งต้องแข่งขันกับทั้งแบรนด์ระดับชาติและผู้ประกอบการหน้าใหม่