(แฟ้มภาพซินหัว : โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 19 พ.ย. 2020)
นิวยอร์ก, 24 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่าเขตโรงเรียนทั่วสหรัฐฯ ใช้งบประมาณมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.41 พันล้านบาท) เพื่อจัดซื้อและติดตั้งฟิล์มติดกระจกหน้าต่าง โดยฟิล์มดังกล่าวดึงดูดใจเหล่าเจ้าหน้าที่โรงเรียนเพราะราคาถูกกว่ากระจกกันกระสุนอย่างมากแต่อาจไม่ได้มีประสิทธิผลเสมอไป
รายงานระบุว่าแม้กลุ่มผู้ผลิตฟิล์มติดกระจกหน้าต่างรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ รวมถึง 3เอ็ม (3M) เผยว่าฟิล์มดังกล่าวไม่สามารถหยุดลูกกระสุนหรือผู้บุกรุกได้ แต่บรรดาตัวแทนจำหน่ายฟิล์มติดกระจกหน้าต่างบางส่วนยังคงทำเงินจากการอวดอ้างข้อมูลอันเป็นเท็จหรือเกินจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติป้องกันกระสุน
ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มติดกระจกหน้าต่างบางส่วนสร้างความประทับใจแก่คณะเจ้าหน้าที่โรงเรียนด้วยการสาธิตยิงกระสุนจริงที่แสดงให้เห็นว่าฟิลม์หยุดกระสุนปืนได้ โดยดาร์เรล สมิธ กรรมการบริหารสมาคมฟิลม์กระจกหน้าต่างนานาชาติ กล่าวว่านั่นเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้ปืนหรือกระสุนปืนที่มีกำลังต่ำกับกระจกหนารุ่นเก่าที่โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ใช้แล้ว
กลุ่มตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมฟิล์มติดกระจกหน้าต่างบอกว่ายังคงสามารถทำเงินได้อีกมากแม้เลิกอ้างคุณสมบัติป้องกันกระสุน และยึดแนวคิดอันเป็นที่ยอมรับเป็นวงกว้างว่าฟิล์มติดกระจกหน้าต่างสามารถชะลอผู้บุกรุกที่พยายามยิงปืนเข้ามาได้ เพื่อต่อเวลาอันมีค่าสำหรับการรอความช่วยเหลือ
รายงานเสริมว่าอุตสาหกรรมฟิล์มติดกระจกหน้าต่างเริ่มต้นช่วงทศวรรษ 1970 เพื่อลดต้นทุนทางพลังงานและเสนอวิธีการป้องกันแรงระเบิด ก่อนจะวิวัฒนาการกลายเป็นเกราะป้องกันพายุและผู้บุกรุก โดยฟิล์มติดกระจกหน้าต่างสามารถช่วยชีวิตผู้คนด้วยการจำหน่ายในฐานะตัวชะลอการบุกรุก ไม่ใช่ตัวหยุดลูกกระสุนปืน