(แฟ้มภาพซินหัว : สถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สือเฉิงจื่อในเมืองฮามี่ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 8 ก.ย. 2024)
ปารีส, 10 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (9 ต.ค.) องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยว่าจีนมุ่งสร้างความแข็งแกร่งของตำแหน่งผู้นำโลกด้านพลังงานหมุนเวียน โดยจีนจะครองส่วนแบ่งร้อยละ 60 ของการขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกภายในปี 2030
รายงานพลังงานหมุนเวียน ปี 2024 ขององค์การฯ ระบุว่าจีนจะครองส่วนแบ่งร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานหมุนเวียนใหม่ทั้งหมดในโลกภายในปี 2030 ซึ่งสูงเกินเป้าหมายมีกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 1,200 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษเร็วกว่ากำหนดถึง 6 ปี
กำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า และกำลังการผลิตพลังงานลมเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อนับตั้งแต่ยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (feed-in tariff หรือ FIT) ในปี 2020 โดยมีแรงหนุนจากต้นทุนที่แข่งขันกันได้และนโยบายรัฐที่เกื้อหนุน
ความสำเร็จของจีนส่วนใหญ่เกิดจากการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนขนานใหญ่ โดยการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียนในจีนได้แรงหนุนจากเป้าหมายปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2060 พร้อมสิ่งจูงใจจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) ขีดความสามารถทางการผลิตในท้องถิ่น และการจัดสรรเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ
อนึ่ง รายงานพลังงานหมุนเวียน ปี 2024 เป็นรายงานประจำปีฉบับสำคัญขององค์การฯ ซึ่งคาดการณ์และวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและนโยบาย ควบคู่กับอุปสรรคต่อการเติบโตที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในภาคพลังงานหมุนเวียน