(แฟ้มภาพซินหัว : คนเยี่ยมชมนิทรรศการอาชญากรรมของญี่ปุ่น ระบบ "หญิงบำเรอ" ที่หอรำลึกเหยื่อจากเหตุสังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่น นครหนานจิง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 18 ก.ย. 2021)
เซี่ยงไฮ้, 7 พ.ค. (ซินหัว) -- ศูนย์วิจัยด้านหญิงบำเรอประจำมหาวิทยาลัยครูเซี่ยงไฮ้ของจีนรายงานว่าหญิงผู้รอดชีวิตจากระบบ "หญิงบำเรอ" (comfort women) ของกองทัพญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี ในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีนในวันพุธ (8 พ.ค.) ทำให้เหลือผู้รอดชีวิตบนแผ่นดินใหญ่ของจีนเพียง 7 คน
รายงานระบุว่าผู้รอดชีวิตคนนี้เกิดปี 1930 ที่อำเภอหัวหรงของมณฑลหูหนาน และถูกทหารญี่ปุ่นลักพาตัวในปี 1943 ก่อนถูกกักขังอยู่ในฐานที่มั่นของทหารญี่ปุ่น ที่ซึ่งเธอและเด็กหญิงคนอื่นๆ ที่ถูกลักพาตัวมาจากหลากหลายพื้นที่ต้องทุกข์ทรมานกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศอันแสนโหดร้าย
การประสบพบเจอเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวทิ้งรอยแผลบาดลึกไว้ตามร่างกายและจิตใจ โดยหญิงผู้รอดชีวิตคนนี้เก็บงำความเจ็บช้ำเป็นความลับมานานกว่า 70 ปี ก่อนตัดสินใจบอกเล่าประสบการณ์เลวร้ายในอดีตให้ทีมวิจัยจากศูนย์วิจัยฯ ประจำมณฑลหูหนานในเดือนพฤษภาคม 2021 ภายใต้การสนับสนุนจากครอบครัว โดยศูนย์วิจัยฯ ยืนยันตัวตนของเธอเป็นผู้รอดชีวิตจากระบบ "หญิงบำเรอ" ของกองทัพญี่ปุ่น หลังจากสืบคำให้การ ลงพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบจดหมายเหตุประจำอำเภอและบันทึกประวัติศาสตร์
อนึ่ง การวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่ามีผู้หญิงในเอเชียถูกบังคับเป็น "หญิงบำเรอ" ของกองทัพญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ราว 4 แสนคน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นหญิงชาวจีน
ศูนย์วิจัยฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบในมณฑลหูหนานและซานซีหลายครั้ง เก็บรวบรวมข้อมูลผ่านการลงพื้นที่ คำให้การของผู้รอดชีวิต และบันทึกทางประวัติศาสตร์ เพื่อจัดทำคลังเอกสารการวิจัยเกี่ยวกับเหยื่อของระบบ "หญิงบำเรอ" ของกองทัพญี่ปุ่น