(แฟ้มภาพซินหัว : รถจักรเก็บเกี่ยวฝ้ายในอำเภออวี้หลี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 22 ต.ค. 2023)
อุรุมชี, 20 ม.ค. (ซินหัว) -- เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนวางแผนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมฝ้ายในท้องถิ่นให้เป็นอุตสาหกรรมเสาหลักแม้เผชิญการคว่ำบาตร โดยซินเจียงยังคงเป็นแหล่งฝ้ายที่สำคัญของจีนในปี 2024 ด้วยผลผลิตมากกว่า 5.68 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 92.2 ของผลผลิตฝ้ายทั้งหมดในประเทศ
อ้ายเอ๋อร์เขิ่น ถู่หนีหย่าจือ ประธานรัฐบาลส่วนภูมิภาคซินเจียง ซึ่งนำเสนอรายงานการปฏิบัติงานต่อที่ประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนส่วนภูมิภาคเมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) กล่าวว่าซินเจียงตั้งเป้าหมายรักษาปริมาณการผลิตฝ้ายในปี 2025 ให้สูงกว่า 5 ล้านตัน กลายเป็นฐานการผลิตเส้นด้ายฝ้ายคุณภาพสูงระดับชาติ และขยับขยายห่วงโซ่อุปทานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
อุตสาหกรรมฝ้ายและสิ่งทอของซินเจียงสร้างมูลค่าผลผลิต 2.2 แสนล้านหยวน (ราว 1.03 ล้านบาท) และสร้างงานแก่ประชาชนกว่า 1 ล้านอัตราในปี 2024 โดยเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 คณะกรรมการถาวรประจำสภาผู้แทนประชาชนส่วนภูมิภาคซินเจียงได้ผ่านข้อมติคัดค้านการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสนับสนุนการพัฒนาของผู้ประกอบธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ถูกคว่ำบาตร
เมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.) จ้าวเหวินเฉวียน โฆษกสภาผู้แทนประชาชนส่วนภูมิภาคซินเจียง กล่าวว่าข้อมติดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญในการใช้วิธีการทางกฎหมายต่อต้านการครองอำนาจนำและการเมืองเชิงอำนาจของสหรัฐฯ พร้อมกับเดินหน้าพัฒนากรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
อ้ายเอ๋อร์เขิ่น ถู่หนีหย่าจือ กล่าวว่าซินเจียงจะเพิ่มชุดเครื่องมือเพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของต่างชาติ และการสนับสนุนทางนโยบายสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทั้งผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุตสาหกรรมหลัก วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน
อนึ่ง ซินเจียงมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งภูมิอากาศและภูมิประเทศ ที่เอื้อต่อการเพาะปลูกฝ้าย โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมฝ้ายในซินเจียงใช้งานเครื่องจักรและเทคโนโลยีอัจฉริยะเพิ่มขึ้น มีอัตราการปลูกฝ้ายด้วยเครื่องจักรสูงแตะร้อยละ 100 และอัตราการเก็บเกี่ยวฝ้ายด้วยเครื่องจักรสูงราวร้อยละ 90
ซินเจียงตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในปี 2025 อยู่ที่ราวร้อยละ 6 เพื่อมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาระดับชาติของจีนในทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยิ่งขึ้น