(แฟ้มภาพซินหัว : อ้ายอี้อิง ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่น บอกเล่าเรื่องราวในอดีตที่บ้านในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 3 ธ.ค. 2015)
หนานจิง, 10 ม.ค. (ซินหัว) -- หอรำลึกเหยื่อเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงโดยผู้รุกรานชาวญี่ปุ่นของจีนรายงานว่า "อ้ายอี้อิง" ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง ได้เสียชีวิตลงด้วยอายุ 97 ปี เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) ส่งผลให้จำนวนผู้รอดชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือเพียง 31 คน
เหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงเกิดขึ้นเมื่อกองกำลังทหารญี่ปุ่นยึดครองหนานจิง อดีตเมืองหลวงของจีน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 1937 และเข่นฆ่าพลเรือนและทหารไร้อาวุธชาวจีนราว 3 แสนรายในช่วงระยะ 6 สัปดาห์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ป่าเถื่อนที่สุดของสงครามโลกครั้งที่สอง
โลกของอ้ายอี้อิงในวัย 9 ปี พังทลายลงในชั่วพริบตา เมื่อพ่อ ลุง และลูกพี่ลูกน้องของเธอถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวจากที่พักพิงชั่วคราวในโรงเลี้ยงวัว ก่อนถูกสังหารที่ทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนอ้าย รวมถึงแม่และน้องๆ ของเธอ ได้หลบหนีไปยังค่ายผู้ลี้ภัยและรอดตายอย่างหวุดหวิด
"ฉันจำได้ว่าดึงแขนเสื้อของพ่อไว้ แล้วถามว่าจะกลับมาเมื่อไร" อ้ายอี้อิงเคยเล่าความหลังอันโศกเศร้า "พ่อบอกว่าเดี๋ยวก็กลับมา นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขา"
อ้ายอี้อิง ผู้รอดชีวิตที่สูญเสียสมาชิกครอบครัว 6 คน ในเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง ได้เดินทางเยือนโอซากา นาโกยา และโตเกียวของญี่ปุ่นในปี 2014 และเข้าร่วมการบอกเล่าเรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง
ตอนนั้นอ้ายอี้อิงเผยประสบการณ์อันน่าสลดใจ ย้อนนึกถึงการกระทำอันโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่นในจีน พร้อมกล่าวว่า "เราต้องไม่ลืมความทุกข์ทรมานที่เคยพานพบในอดีต" โดยลูกชายของอ้ายอี้อิงได้รับการรับรองเป็น "ผู้สืบทอดความทรงจำทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิง" ในปี 2022
อนึ่ง รัฐบาลจีนดำเนินการบันทึกคำบอกเล่าของเหล่าผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่หนานจิงในรูปแบบลายลักษณ์อักษรและคลิปวิดีโอ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ถูกขึ้นทะเบียนอยู่ในโครงการความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World Register) ขององค์การยูเนสโกเมื่อปี 2015