(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องปรุงรสที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 9 ธ.ค. 2024)
ปักกิ่ง, 17 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (16 ธ.ค.) รัฐบาลจีนออกเอกสารว่าด้วยมาตรการสร้างความทันสมัยแก่อุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยจีนมุ่งสร้างระบบค้าปลีกอันทันสมัยที่มีอุปทานพรั่งพร้อมและการบริการที่มีคุณภาพสูงในช่วงต้น และระบบค้าปลีกที่มีความอัจฉริยะ สะดวก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายในปี 2029
รายงานระบุว่าเอกสารข้างต้นร่วมออกโดยหน่วยงานรัฐบาล 7 แห่ง ซึ่งรวมถึงกระทรวงพาณิชย์ กำหนดว่าจีนจะพยายามปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์กลางธุรกิจชุมชน รวมถึงจะดำเนินโครงการปรับปรุงสถานประกอบธุรกิจค้าปลีกที่มีอยู่เดิมตามเมืองต่างๆ ในแต่ละปี
เอกสารฉบับนี้มุ่งช่วยปรับปรุงระบบหมุนเวียนทางพาณิชย์ของประเทศ ขยับขยายการบริโภค และเร่งการพัฒนาภาคการบริการที่หลากหลาย เนื่องจากอุตสาหกรรมค้าปลีกมีบทบาทสำคัญต่อการชี้นำการผลิต ขยายการบริโภค สร้างงาน และรับรองชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
พันธกิจสำคัญประกอบด้วยการสร้างแลนด์มาร์กทางธุรกิจที่สามารถให้บริการแบบครบวงจรครอบคลุมการชอปปิง อาหารและเครื่องดื่ม การเข้าสังคมและความบันเทิง การนำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงผ่านนิทรรศการระดับนานาชาติ ความร่วมมือกับหุ้นส่วนธุรกิจต่างประเทศและอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และการส่งเสริมร้านค้าอัจฉริยะ ธุรกรรมไร้สัญญา การชำระเงินด้วยตนเอง และตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
รัฐบาลจีนจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินแก่ความพยายามเหล่านี้โดยกระตุ้นสถาบันการเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีกในการปรับปรุงร้านค้า โลจิสติกส์ ตลอดจนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และความพยายามเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล
สถาบันการเงินและทุนทางสังคมจะได้รับการสนับสนุนให้ช่วยฟื้นฟูสถานประกอบการผ่านสินเชื่อแบบปรับโครงสร้างและแบบพิเศษ ขณะเดียวกันห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และตลาดเกษตรกรที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จะได้รับการแนะนำให้ออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ด้วย