ปักกิ่ง, 9 พ.ค. (ซินหัว) -- วันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานในจีนระหว่างวันที่ 1–5 พ.ค. 2025 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสามวันหยุดยาวของจีน คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2023 โดยข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มระบุว่าชาวจีนจำนวนมากใช้วันลาพักร้อนเพื่อหยุดเพิ่มในช่วงวันหยุดยาว และเลือกเดินทางท่องเที่ยวในทริประยะยาว 3-6 วันขึ้นไป

ปลายทางยอดนิยมในปีนี้ ได้แก่ ภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยเฉพาะเส้นทางสายไหมและเส้นทางมณฑลกานซู่-ชิงไห่ ที่ทัวร์ขายหมดล่วงหน้า 2 สัปดาห์ โดยมีไฮไลต์คือถ้ำโม่เกา มรดกโลกยูเนสโก ภูมิลักษณ์เขาหินสีแดงตานเสีย และกิจกรรมกลางทะเลทราย เช่น ขี่อูฐ ตั้งแคมป์ และชมดาว

แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งได้ขยายเวลาเปิดทำการและเพิ่มกิจกรรม เช่น คอนเสิร์ตกลางทะเลทรายและตลาดพื้นเมืองที่เมืองตุนหวง ขณะที่เมืองรองอย่างหล่งหนาน เทียนสุ่ย และติ้งซี ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น

แนวโน้มใหม่ของการท่องเที่ยวในจีนคือการเปลี่ยนจากการแวะเที่ยวแบบสั้นๆ ไปสู่การเรียนรู้วิถีชีวิตในท้องถิ่นอย่างแท้จริง เช่น การเดินป่า ชมหมู่บ้านชาติพันธุ์ และร่วมกิจกรรมมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีระบบคมนาคมที่เชื่อมต่อจุดต่างๆ อย่างสะดวก

ข้อมูลจากถงเฉิง แทรเวล (Tongcheng Travel) เผยว่ามีผู้คนสนใจจุดหมายปลายทางเกิดใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย โดยเมืองทางวัฒนธรรมที่มีทัศนียภาพงดงาม เช่น เมืองซินโจว มณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีน และ เมืองผู่เอ่อร์ มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ มียอดการค้นหาจากผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

จีนมีการขยายตัวในด้านการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างชัดเจนในช่วงวันหยุดยาวนี้ โดยแพลตฟอร์มฟลิกกี (Fliggy) รายงานว่ายอดจองเที่ยวบิน โรงแรม และบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวจีนสนใจประสบการณ์เฉพาะทาง เช่น การชมพิพิธภัณฑ์ในฝรั่งเศส กิจกรรมทางทะเลในมาเลเซีย หรือกิจกรรมปีนเขาที่เนปาล

ขณะเดียวกัน จีนยังออกมาตรการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น นโยบายยกเว้นวีซ่า การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มทันที ณ จุดซื้อสินค้า และการขยายบริการมัคคุเทศก์หลายภาษา เพื่อดึงดูดนักเดินทางมากขึ้นในอนาคต

(ที่มา : https://en.imsilkroad.com/p/345425.html)

บทความก่อนหน้า

จีนช่วยเหลือเมียนมา ชุดที่ 12 ส่งน้ำมันเบนซิน 1.7 หมื่นตัน

บทความถัดไป

จีนเผย ‘เศรษฐกิจยามค่ำคืน’ โตแกร่ง ดึงดูดผู้บริโภคด้วยวัฒนธรรม-เทคโนโลยี