โรม, 3 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.) องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่าราคาอาหารทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยราคาเมล็ดธัญพืชและธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีราคาอาหารมาตรฐานขององค์การฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม แม้ราคาน้ำตาลและน้ำมันพืชจะลดลง

องค์การฯ กล่าวว่าเมล็ดธัญพืชและธัญพืชได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อย่างหนักหน่วงที่สุด เนื่องจากเป็นองค์ประกอบใหญ่ที่สุดในดัชนีราคาอาหารขององค์การฯ ขณะที่ความต้องการตามฤดูกาล การส่งออกข้าวสาลีจากรัสเซียที่ลดลง และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ล้วนมีบทบาทสำคัญเช่นกัน

รายงานประจำเดือนขององค์การฯ ระบุว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อันรวมถึงการยกเว้นภาษีให้แก่ผู้นำเข้าข้าวโพดรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเม็กซิโก และการระงับภาษีศุลกากรกว่าร้อยละ 10 เป็นเวลา 90 วันสำหรับคู่ค้ารายอื่นๆ อีกหลายราย ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านราคามากขึ้น

รายงานระบุอีกว่าราคาผลิตภัณฑ์จากนมพุ่งขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2  ขณะที่ราคาน้ำมันพืชลดลงร้อยละ 2.3 และราคาน้ำตาลลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยลดลงจากเดือนมีนาคมร้อยละ 3.5

บทความก่อนหน้า

นักตกปลาจีน 1,200 คน ร่วมแข่งตกปลาอย่างยิ่งใหญ่ในเจียงซู

บทความถัดไป

สหรัฐฯ เพิ่มงานเดือนเม.ย. 1.77 แสนอัตรา ขณะรัฐบาลกลางจ้างงานลดลงต่อเนื่อง