เวลลิงตัน, 5 ต.ค. (ซินหัว) -- การศึกษาฉบับใหม่เปิดเผยว่าการออกคำสั่งห้ามขายยาสูบในกลุ่มวัยรุ่นและสร้างกลุ่มประชากรที่ไม่เคยสูบบุหรี่ อาจช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดทั่วโลกถึง 1.2 ล้านราย

การศึกษาใช้การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์โดยอิงข้อมูลในอดีตจาก 82 ประเทศ และพบว่าการห้ามซื้อบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ ในกลุ่มคนอายุ 14-18 ปี อาจช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดในอนาคตได้เกือบครึ่งหนึ่งในผู้ชาย และราวหนึ่งในสามในผู้หญิง ภายในปี 2095

การศึกษาของคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอทาโกของนิวซีแลนด์ มหาวิทยาลัยซานติอาโก เดอ คอมโปสเตลาของสเปน และองค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติสังกัดองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของมะเร็งปอด และจำนวนการเสียชีวิตที่ป้องกันได้เกือบสองในสามนั้นอยู่ในประเทศที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง

จูเลีย เรย์ บรันดาริซ ผู้เขียนงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยซานติอาโก เดอ คอมโปสเตลา เผยว่าการออกคำสั่งห้ามดังกล่าวจะไม่เพียงช่วยชีวิตคนจำนวนมาก แต่ยังอาจแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุขในการรักษาและดูแลผู้ที่เจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่

ปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดออกกฎหมายกำหนดให้การขายยาสูบให้กับเยาวชนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนกฎหมายบุกเบิกของนิวซีแลนด์ที่มุ่งสั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ผู้ที่เกิดในปี 2009 หรือหลังจากนั้นได้ถูกยกเลิกไปเมื่อไม่นานนี้

อนึ่ง การศึกษาวิจัยดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสาร เดอะ แลนเซต พับลิค เฮลธ์ (The Lancet Public Health) เมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) ที่ผ่านมา

บทความก่อนหน้า

บูดาเปสต์เตรียมใช้ 'รถเมล์ไฟฟ้าล้วน' 70 คัน จากบีวายดี

บทความถัดไป

ไบเดนย้ำ 'อิสราเอล' ต้องระวังพลเรือนบาดเจ็บ-เสียชีวิตในปฏิบัติการตอบโต้