ลอนดอน, 19 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (18 มี.ค.) ไฟแนนเชียล ไทม์ส (Financial Times) เผยแพร่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์แถวหน้าของแวดวงวิชาการ ซึ่งเตือนว่านโยบายภาษีศุลกากรและการเร่งลดขนาดรัฐบาลกลางของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจและผลักดันอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
ไฟแนนเชียล ไทม์ส ดำเนินการสำรวจร่วมกับศูนย์คลาร์กประจำคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยชิคาโก และพบว่านักเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมดในการสำรวจครั้งนี้ต่างมองว่าความไม่แน่นอนจากนโยบายเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโต เพราะผู้บริโภคและธุรกิจลดการใช้จ่ายลง
โรเบิร์ต บาร์เบรา นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ กล่าวว่าภาษีศุลกากร การลดภาษี การลดจ้างงานและใช้จ่ายของรัฐบาล การตัดงบประมาณทางการศึกษา และการแทรกแซงธนาคารกลางสหรัฐฯ ล้วนส่งผลกระทบทั้งสิ้น
การประมาณการโดยเฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ 49 คน ซึ่งเข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตร้อยละ 1.6 ในปี 2025 ซึ่งลดลงอย่างมากจากตัวเลขคาดการณ์ร้อยละ 2.3 ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รวมถึงคาดการณ์ว่านโยบายของทรัมป์จะผลักดันอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อร้อยละ 2 ได้ยากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นมากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ตอบแบบสำรวจแสดงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของข้อมูลเศรษฐกิจ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจยุบคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านสถิติทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกลาง ซึ่งรับผิดชอบการปรับปรุงคุณภาพข้อมูลเศรษฐกิจ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพซินหัว : โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 24 ก.พ. 2025)