จาการ์ตา, 22 ม.ค. (ซินหัว) -- คณะกรรมการกำกับดูแลการแข่งขันทางธุรกิจของอินโดนีเซียพบว่ากูเกิล บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ มีความผิดฐานผูกขาดการบริการบนกูเกิล เพลย์สโตร์ (Google Play Store) และสั่งปรับเป็นเงิน 2.02 แสนล้านรูเปียห์ (ราว 421 ล้านบาท)

รายงานระบุว่ากูเกิลบังคับนักพัฒนาแอปพลิเคชันเผยแพร่แอปฯ ผ่านกูเกิล เพลย์สโตร์ เพื่อเปิดระบบชำระเงินกูเกิล เพลย์ บิลลิง (GPB System) ซึ่งหากนักพัฒนาไม่ปฏิบัติตาม แอปฯ ของพวกเขาจะถูกถอดออกจากกูเกิล เพลย์สโตร์ ขณะเดียวกันกูเกิลยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการบริการร้อยละ 15-30 สำหรับการทำธุรกรรมผ่านระบบชำระเงินข้างต้น

คณะกรรมการฯ ชี้ว่านโยบายบังคับใช้ระบบชำระเงินกูเกิล เพลย์ บิลลิง สำหรับการทำธุรกรรมทุกรายการบนกูเกิล เพลย์สโตร์ สร้างความเสียหายแก่บรรดานักพัฒนาแอปพลิเคชัน รวมถึงจำกัดทางเลือกของนักพัฒนาแอปฯ ในการใช้ระบบชำระเงินทางเลือกอื่นๆ ซึ่งลดทอนการแข่งขันและตัวเลือก

วันพุธ (22 ม.ค.) คณะกรรมการฯ ประกาศการลงโทษปรับเงิน 2.02 แสนล้านรูเปียห์ และสั่งให้กูเกิลยกเลิกการบังคับใช้ระบบชำระเงินกูเกิล เพลย์ บิลลิง บนกูเกิล เพลย์สโตร์ พร้อมกับสั่งให้กูเกิลลดค่าธรรมเนียมการบริการลงอย่างน้อยร้อยละ 5 และยืนหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารเพื่อจ่ายค่าปรับ

บทความก่อนหน้า

กลุ่มประเทศ 'ล้านช้าง-แม่โขง' ผนึกกำลังช่วยเหยื่อ ทลายแก๊งอาชญากรข้ามแดน

บทความถัดไป

รถบรรทุกเหมืองไร้คนขับ ติด 'เซ็นเซอร์หู-ดวงตา' ลุยงาน 24 ชั่วโมงในจีน