พนมเปญ, 18 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีศักยภาพช่วยให้เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งสูง

ฮุนเซน ซึ่งพบปะกับหารือกับโจฮารี บิน อับดุล ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ณ กรุงพนมเปญของกัมพูชา แสดงความเชื่อมั่นว่ามาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในปี 2025 จะสามารถนำพาภูมิภาคสู่การพัฒนายิ่งขึ้น พร้อมเสนอแนะว่ามาเลเซียควรพิจารณาการปรับใช้กลไกการเจรจาทางการค้าระดับอาเซียนกับพันธมิตรภายนอก

อนึ่ง ความตกลงฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2022 ประกอบด้วย 15 ประเทศเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และคู่ค้าหลักอีก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

คิน เพีย อธิบดีสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งกัมพูชา คลังสมองในสังกัดราชบัณฑิตยสถานแห่งกัมพูชา กล่าวว่าความตกลงฯ จะช่วยลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่ร่ำรวยและยากจน

ความตกลงฯ ได้ลดภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้า ส่งผลให้เกิดการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่ค้ามากขึ้น โดยข้อตกลงการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้ยังช่วยเสริมสร้างการบูรณาการเข้าสู่เศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลกของอาเซียน

บทความก่อนหน้า

ชาวต่างชาติพำนักชุมชนในปักกิ่ง ร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมต้อนรับตรุษจีน

บทความถัดไป

ฐานผลิต 'ถุงมือสกี' ในซานตง ส่งออกทั่วเอเชีย-ยุโรป-อเมริกา