ปักกิ่ง, 19 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (18 ธ.ค.) คณะผู้แทนพิเศษด้านปัญหาเขตแดนของจีนและอินเดียได้จัดการประชุม ครั้งที่ 23 ในกรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งนับเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีการบรรลุฉันทามติ 6 ประการ และกำหนดการประชุมคณะผู้แทนพิเศษครั้งต่อไปที่อินเดียในปี 2025

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะดำเนินมาตรการคุ้มครองสันติภาพและสันติสุขในพื้นที่ชายแดนและส่งเสริมการพัฒนาอันดีมีเสถียรภาพของความสัมพันธ์ทวิภาคี และแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเขตแดนอันยุติธรรม สมเหตุสมผล และยอมรับร่วมกันได้ตามหลักการชี้นำทางการเมืองที่กำหนดในปี 2005

นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะปรับปรุงกฎเกณฑ์การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนและเสริมสร้างการสร้างมาตรการสร้างความไว้วางใจ ยกระดับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อส่งเสริมผู้แสวงบุญชาวอินเดียกลับมาเยือนทิเบต (ซีจ้าง) ของจีน และเสริมสร้างการสร้างกลไกการประชุมคณะผู้แทนพิเศษ

อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียที่มีเสถียรภาพอันดีและคาดการณ์ได้ เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศและภูมิภาค

หวังอี้ ผู้แทนพิเศษของจีน ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน กล่าวว่าคณะผู้นำของสองประเทศได้พบกันที่เมืองคาซานของรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคมและบรรลุฉันทามติสำคัญว่าด้วยการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งกำหนดวิถีทางและทิศทางการฟื้นฟูและพัฒนาความสัมพันธ์จีน-อินเดีย ณ ช่วงเวลาสำคัญ

หวังกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายควรจัดการปัญหาเขตแดนด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ การมองไปยังอนาคตข้างหน้า และการแสวงหาความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ณ ตำแหน่งที่เหมาะสมในความสัมพันธ์ทวิภาคี ร่วมรักษาสันติภาพและสันติสุขในพื้นที่ชายแดน และส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-อินเดีย กลับสู่เส้นทางการพัฒนาที่มีเสถียรภาพอันดี

ด้านอาจิต โดวาล ผู้แทนพิเศษของอินเดีย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอินเดีย กล่าวว่าทั้งอินเดียและจีนต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันและมุมมองคล้ายคลึงกัน และจำเป็นต้องดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเดินหน้าการพัฒนาไปด้วยกัน

โดวาลกล่าวว่าประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับพื้นที่ชายแดนถูกแก้ไขอย่างเหมาะสมตลอดห้าปีที่ผ่านมาด้วยความพยายามร่วมของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีนัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยฝ่ายอินเดียยินดีจะรักษาทัศนคติอันเป็นรูปธรรมและการสื่อสารอันมีประสิทธิภาพกับฝ่ายจีน และเดินหน้าสร้างเงื่อนไขอันเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาเขตแดนในท้ายที่สุด

บทความก่อนหน้า

ฮอนดา-นิสสัน' เตรียมหารือควบกิจการ ท่ามกลางศึกเดือดรถ EV

บทความถัดไป

ต่างชาติเยือนญี่ปุ่น 11 เดือนแรก กว่า 33 ล้านคน แซงยอดสูงสุดปี 2019