นิวยอร์ก, 23 ก.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เผยว่าเลบานอนอาจกลายเป็น "ฉนวนกาซาแห่งที่สอง" ท่ามกลางการโจมตีระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
กูเตอร์เรสกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ว่าเหตุการณ์ระเบิดของอุปกรณ์สื่อสารเมื่อไม่นานนี้ในเลบานอน สะท้อนถึง "ความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น" ซึ่งเขาหวั่นว่านี่อาจเป็น "โศกนาฏกรรมเลวร้ายสำหรับโลก"
ด้านฌานีน เฮนนิส ผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติประจำเลบานอนเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่าภูมิภาคนี้ใกล้จะเกิดมหันตภัยเลวร้ายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว และอาจไม่มีทางออกทางการทหารใดที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายปลอดภัยมากขึ้น
กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนรายงานว่าความตึงเครียดบริเวณชายแดนอิสราเอล-เลบานอนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุระเบิดอุปกรณ์สื่อสารทั่วเลบานอน เมื่อวันอังคารและวันพุธ (17-18 ก.ย.) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 37 ราย และบาดเจ็บเกือบ 3,000 ราย โดยอิสราเอลยังได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศในกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย
รายงานระบุว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงจรวดมากกว่า 100 ลูกโจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล
อนึ่ง กองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ยิงโจมตีตอบโต้ข้ามชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2023 สร้างความหวาดหวั่นว่าการปะทะระยะเวลานานเกือบหนึ่งปีนี้อาจทวีความรุนแรงกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ
(แฟ้มภาพซินหัว : รถยนต์ลาดตระเวนของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน ในเมืองมาร์เจยูนทางตอนใต้ของเลบานอน วันที่ 22 ก.ย. 2024)