วอชิงตัน, 30 ต.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (29 ต.ค.) แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่าสหรัฐฯ กังวลเป็นอย่างมากต่อการที่อิสราเอลได้ผ่านกฎหมายที่จะห้ามสำนักงานบรรเทาทุกข์และงานเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ปฏิบัติงานในดินแดนอิสราเอล
มิลเลอร์ระบุว่ากฎหมายดังกล่าวซึ่งผ่านเมื่อวันจันทร์ (28 ต.ค.) ที่ผ่านมา ทว่ายังไม่ได้มีการนำมาปฏิบัติใช้นั้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชาวปาเลสไตน์หลายล้านคน ซึ่งต้องพึ่งพาสำนักงานฯ สำหรับบริการที่จำเป็น อาทิ การรักษาพยาบาล และการศึกษา
มิลเลอร์กล่าวว่าบทบาทของสำนักงานฯ มีความสำคัญทั้งในฉนวนกาซา เขตเวสต์แบงก์ และภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวม ซึ่งหน้าที่ในแง่ของการส่งมอบอาหาร น้ำ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่นๆ ให้กับพลเรือนในฉนวนกาซาของสำนักงานฯ นั้นไม่มีใครทดแทนได้ในขณะนี้
ทั้งนี้ มิลเลอร์ยังย้ำถึงประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุไว้ในจดหมายล่าสุดถึงพันธมิตรอิสราเอลว่าหากอิสราเอลบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ อาจเกิดผลที่ตามมาภายใต้กฎหมายและนโยบายของสหรัฐฯ
มิลเลอร์ระบุว่าสหรัฐฯ จะหารือกับรัฐบาลอิสราเอลในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเกี่ยวกับแผนการดำเนินกฎหมายข้างต้น พร้อมตรวจสอบว่ามีความท้าทายทางกฎหมายซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบใดๆ หรือไม่ จากนั้นจึงจะตัดสินใจหลังพิจารณาปัจจัยทั้งหมดแล้ว
(แฟ้มภาพซินหัว : หญิงชาวปาเลสไตน์รับอาหารที่ศูนย์แจกจ่ายอาหารในเมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ทางตอนกลางของฉนวนกาซา วันที่ 25 ต.ค. 2024)