(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนต่อแถวรอรับอาหารที่สถานที่พักพิงชั่วคราวในเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมา วันที่ 3 เม.ย. 2025)
ย่างกุ้ง, 19 เม.ย. (ซินหัว) -- ยาสมิน ปราซ เดสซิโมซ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เผยว่าเนื่องจากการรับมือเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.9 ตามมาตราแมกนิจูดของเมียนมาได้เปลี่ยนผ่านจากการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินสู่การฟื้นฟูในระยะยาว ทำให้มีความจำเป็นเร่งด่วนในการให้การสนับสนุนอย่างยั่งยืนด้านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการอยู่อาศัยใหม่ๆ ฟื้นฟูระบบชลประทานและไฟฟ้า ตลอดจนส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ยาสมิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า นอกเหนือจากการรับมือเหตุฉุกเฉินแล้ว ควรมีการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมย้ำว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวนั้นยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การสูญเสียแหล่งทำกิน โครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย ความกระทบกระเทือนทางจิตใจ นอกจากนี้ที่พักพิงก็ยังเผชิญความเสี่ยงในฤดูมรสุม
ยาสมิน กล่าวว่าองค์กรมีแผนจะขยายโครงการด้านการยังชีพและทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและพันธมิตรระหว่างประเทศ โดยเน้นให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสภาพการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่น แหล่งน้ำและอาหาร และภาคสาธารณสุข โดยคณะกรรมการฯ จะทำงานร่วมกับสภากาชาดเมียนมาและพันธมิตรในกลุ่มองค์กรกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ รวมถึงสภากาชาดของจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดไปจัดการปัญหาเฉพาะหน้าและปัญหาเชิงระบบในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
ทั้งนี้ วันเสาร์ (19 เม.ย.) ข้อมูลจากสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3,726 ราย ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 5,105 ราย และยังคงมีผู้สูญหาย 129 ราย เมื่อนับถึงวันศุกร์ (18 เม.ย.) ที่ผ่านมา