(แฟ้มภาพซินหัว: ผู้คนเดินกางร่มบนถนนในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น วันที่ 4 ก.ค. 2024)
นิวยอร์ก, 7 ธ.ค. (ซินหัว) -- เดอะ วอชิงตันโพสต์ รายงานเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ว่าสภาพอากาศบางประการที่เกิดขึ้นชั่วคราว ในปี 2023 เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลให้อุณหภูมิโลกในปี 2024 มีแนวโน้มลดลงแต่อย่างใด
ในช่วงที่ปี 2023 กำลังจะสิ้นสุดลง บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างหวังว่าอุณหภูมิที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกนั้นอาจจะลดลงในปี 2024 แต่ทว่าอุณหภูมิโลกในปีนี้ยังคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับสถิติเดิม
รายงานระบุว่า หลังจากที่ปี 2023 ขึ้นแท่นเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ปี 2024 ก็แทบจะแน่ชัดแล้วว่าโลกอาจจะยังร้อนขึ้นอีก ปัจจุบัน มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งกล่าวว่าสิ่งนี้อาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงระดับฐานรากของสภาพอากาศโลก ซึ่งทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเร็วกว่าที่คาด
อุณหภูมิโลกที่ร้อนเป็นเวลาหนึ่งหรือสองปี แม้จะดูผิดธรรมดา แต่ไม่ได้มีนัยเพียงว่าแนวโน้มของภาวะโลกร้อนจะเร่งตัวขึ้นเท่านั้น เพราะตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ต่างก็กำลังสำรวจหลายๆ ทฤษฎีเพื่อหาคำตอบว่าทำไมอากาศร้อนจึงมีความต่อเนื่องยาวนาน
รายงานระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่บรรดานักวิทยาศาสตร์เห็นตรงกันคือมหาสมุทรต่างๆ ของโลกยังคงอุ่นอย่างไม่ปกติ ซึ่งเป็นระดับความอุ่นที่มากกว่าอุณหภูมิปกติที่เดิมทีก็ทำให้อุณหภูมิพื้นดินสูงขึ้นอยู่แล้วด้วยซ้ำ ขณะที่มีบางส่วนมองว่าปรากฏการณ์นี้อาจเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว เป็นเพียงสองปีของความโชคร้าย และอาจพลิกกลับในทิศทางตรงกันข้ามได้