ปักกิ่ง, 7 เม.ย. (ซินหัว) – ท่ามกลางตึกสูงระฟ้าใจกลางย่านธุรกิจของมหานครเซินเจิ้นของจีน เขตอนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลนฝูเถียน ขนาด 368 เฮกตาร์ (ราว 2,300 ไร่) ยังคงทำหน้าที่เป็นจุดแวะพักสำคัญของนกอพยพจากทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงแนวทางอันชาญฉลาดของจีนในการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเมืองและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษ โจวไห่เชา นักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพและสมุทรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซินเจิ้น ได้ทุ่มเททำงานอนุรักษ์ป่าชายเลนชายฝั่งอย่างจริงจัง นับตั้งแต่ปี 2015 ทีมของเขาได้นำเทคโนโลยีโดรน ระบบติดตามผ่านดาวเทียม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อทำความเข้าใจระบบนิเวศที่ซับซ้อนของป่าชายเลน ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นต้นไม้ประจำเมืองเซินเจิ้นตั้งแต่ปี 2007 ด้วยบทบาทสำคัญทั้งในฐานะ "ปอดสีเขียวของเมือง" และผู้พิทักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

ข้อมูลระบุว่า ในแต่ละปี เขตอนุรักษ์แห่งนี้รองรับนกอพยพเกือบ 100,000 ตัว โจวกล่าวว่า "ความท้าทายของเราคือการหาจุดสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ระบบนิเวศและการขยายตัวของเมือง" ทีมของเขาได้พัฒนาเครือข่ายเฝ้าติดตามแบบบูรณาการทั้งทางอากาศ ภาคพื้นดิน และอวกาศ โดยใช้กล้องความละเอียดสูงติดตามนกแบบเรียลไทม์ แผนที่เส้นทางอพยพผ่านดาวเทียม และการวิเคราะห์วงจรคาร์บอนด้วย AI ซึ่งช่วยสร้างแผนที่ทางวิทยาศาสตร์เพื่อฟื้นฟูป่าชายเลน

ความสำเร็จของการอนุรักษ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องปฏิบัติการ แต่ยังขยายไปถึงกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ผ่านเวิร์กช็อปในโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้พวกเขาสังเกตเมล็ดพันธุ์ป่าชายเลนผ่านกล้องจุลทรรศน์ และเรียนรู้จากตัวอย่างทางชีววิทยา "แววตาแห่งความตื่นเต้นของเด็กๆ เมื่อได้ค้นพบความลับของป่าชายเลน เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงคุณค่าของงานที่เราทำ" โจวกล่าว

โมเดลการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำของเซินเจิ้นได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในงานการประชุมการศึกษาธรรมชาติแห่งประเทศจีน (China Nature Education Conference) และเป็นต้นแบบสำหรับเมืองชายฝั่งทั่วโลก

ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ในเมืองที่พัฒนาเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของจีน แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมสามารถร่วมกันสร้างมหานครที่น่าอยู่และยั่งยืนได้ อันเป็นสถานที่ซึ่งป่าคอนกรีตและความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

(เรียบเรียงโดย Tian Shenyoujia, Xinhua Silk Road, https://en.imsilkroad.com/p/345003.html)

บทความก่อนหน้า

‘ซิโนเปค’ ร่วมทุน เริ่มก่อสร้างโครงการโรงงานผลิตพอลิเอทิลีนใน ‘คาซัคสถาน’

บทความถัดไป

ชาวประมงลอยลำทำฟาร์มทะเลในซานตง