(แฟ้มภาพซินหัว : โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีการลงนามเพื่อประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ ที่สวนกุหลาบทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 2 เม.ย. 2025)
วอชิงตัน, 3 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (2 เม.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำร้อยละ 10 และเก็บภาษีสูงขึ้นสำหรับคู่ค้าบางราย โดยสินค้านำเข้าทั้งหมดจะถูกเรียกเก็บภาษีพื้นฐานร้อยละ 10 เว้นแต่จะมีข้อยกเว้นเฉพาะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. นี้
เอกสารจากทำเนียบขาวระบุว่าทรัมป์จะกำหนดภาษีตอบโต้แบบรายคู่ค้าในอัตราที่สูงขึ้นต่อประเทศและภูมิภาคที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสูงที่สุด เริ่มในวันที่ 9 เม.ย. โดยทรัมป์ได้นำเสนอแผนภูมิภาษีแบบตอบโต้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแต่ละประเทศและภูมิภาคต้องเผชิญกับอัตราภาษีที่แตกต่างกันออกไป
ตัวอย่างเช่น จีนจะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมร้อยละ 34 สหภาพยุโรปร้อยละ 20 เวียดนามร้อยละ 46 ญี่ปุ่นร้อยละ 24 อินเดียร้อยละ 26 เกาหลีใต้ร้อยละ 25 ไทยร้อยละ 36 สวิตเซอร์แลนด์ร้อยละ 31 อินโดนีเซียร้อยละ 32 มาเลเซียร้อยละ 24 และกัมพูชาร้อยละ 49
ทำเนียบขาวยังระบุอีกว่าสินค้าบางประเภทจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงเหล็กและอะลูมิเนียม รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่อยู่ภายใต้ภาษีศุลกากรตามมาตรา 232 ทองแดง ยา เซมิคอนดักเตอร์ และไม้แปรรูป
แม้ทรัมป์อ้างว่าการขึ้นภาษีจะช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลและฟื้นฟูภาคการผลิตของสหรัฐฯ แต่นักเศรษฐศาสตร์ได้เตือนว่ามาตรการลักษณะนี้จะทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐฯ สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ สร้างความปั่นป่วนต่อการค้าโลก และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม