(แฟ้มภาพซินหัว : ฟาร์มผสมผสานพลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน ของบริษัทกั๋วหัว เอเนอร์จี อินเวสต์เมนต์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของจีน)
ปักกิ่ง, 5 ม.ค. (ซินหัว) -- ฟาร์มผสมผสานพลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจน ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของจีน เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการแล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทกั๋วหัว เอเนอร์จี อินเวสต์เมนต์ จำกัด (Guohua Energy Investment Co., Ltd.) ผู้เป็นเจ้าของฟาร์มดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท ซีเอชเอ็น เอเนอร์จี อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป (CHN Energy Investment Group)
แถลงการณ์ของซีเอชเอ็น เอนเนอร์จีฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (3 ธ.ค.) ระบุว่าฟาร์มพลังงานแห่งนี้เป็นโครงการฟาร์มผสมผสานพลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีชื่อทางการว่า "โครงการพลังงานแสงอาทิตย์-ไฮโดรเจนนอกชายฝั่งหรูตง" โดยได้เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าและเริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2024 ในอำเภอหรูตงของมณฑลเจียงซู ถือเป็นโครงการแรกของจีนในด้านการใช้ประโยชน์จากพลังงานอย่างครบวงจรและการจัดการระบบนิเวศชายฝั่ง โดยผสมผสานทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ การผลิตไฮโดรเจน การเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และการเก็บกักพลังงาน
โครงการหรูตงมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 400 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ 4,300 หมู่ (ประมาณ 1791 ไร่) ประกอบด้วยสถานีบูสเตอร์ไฟฟ้าบนบกขนาด 220 กิโลโวลต์ สถานีเก็บกักพลังงานขนาด 60 เมกะวัตต์/120 เมกะวัตต์ชั่วโมง และสถานีผลิตและเติมไฮโดรเจนที่มีกำลังการผลิต 1,500 ลูกบาศก์เมตรมาตรฐานต่อชั่วโมง มีความสามารถในการเติมพลังงานไฮโดรเจนได้ 500 กิโลกรัมต่อวัน
หลังดำเนินงานเต็มรูปแบบในปี 2025 คาดว่าโครงการนี้จะผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 468 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เทียบได้กับการประหยัดถ่านหินมาตรฐานประมาณ 151,000 ตันต่อปี
โครงการนี้ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษต่างๆ เช่น ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 309,400 ตัน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 562.6 ตัน และไนโตรเจนไดออกไซด์ 1,125.3 ตัน ซึ่งดีต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น
โครงการหรูตงใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่งทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค โดยใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ขั้นสูงและระบบควบคุมอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงพลังงานและการกักเก็บพลังงาน
ซีเอชเอ็น เอนเนอร์จีฯ ระบุว่าการบูรณาการกระบวนการผลิตไฮโดรเจนผ่านการแยกน้ำด้วยอิเล็กโทรไลซิส (Electrolysis) ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น อันเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเสริมความสามารถในการปรับลดพีคของโครงข่ายไฟฟ้าระดับภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มเสถียรภาพของการจ่ายไฟฟ้า