(แฟ้มภาพซินหัว : วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พบปะสื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่การหาเสียงเลือกตั้งในกรุงมอสโกของรัสเซีย วันที่ 18 มี.ค. 2024)
มอสโก, 14 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวร่วมกับอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งเดินทางเยือนรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียเห็นด้วยกับแผนข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 30 วันที่สหรัฐฯ และยูเครนเสนอ แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องพิจารณา เนื่องจากรัสเซียมองว่าการหยุดยิงนี้ควรนำไปสู่สันติภาพระยะยาว และขจัดสาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตนี้
ปูตินชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการตรวจสอบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงตลอดแนวปะทะระยะทาง 2,000 กิโลเมตร พร้อมแสดงความกังวลว่ายูเครนอาจใช้ช่วงเวลาหยุดยิงนี้ระดมกำลังและลำเลียงอาวุธ
ปูตินยังได้กล่าวถึงกรณีของภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งกองทัพรัสเซียกำลังผลักดันกองทัพยูเครนออกไป หลังจากยูเครนทำการโจมตีข้ามพรมแดนโดยไม่คาดคิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 โดยระบุว่าสถานการณ์ในพื้นที่นี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากกองทัพรัสเซียสามารถยึดคืนเมืองซัดชา ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคดังกล่าวได้เมื่อวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) ขณะที่ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าปฏิบัติการของรัสเซียในภูมิภาคนี้ได้เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว
ทั้งนี้ ปูตินระบุว่าตนอาจหารือทางโทรศัพท์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยรัสเซียจะเจรจาถึงการดำเนินงานระยะถัดไปเพื่อยุติความขัดแย้ง และทำข้อตกลงที่ยอมรับได้โดยพิจารณาจากสถานการณ์ในพื้นที่
เมื่อวันอังคาร (11 มี.ค.) แถลงการณ์ร่วมหลังจากการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนและสหรัฐฯ ในเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่าฝ่ายยูเครนพร้อมยอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับการหยุดยิงชั่วคราว 30 วันโดยทันที และอาจขยายออกไปอีกหากทั้งยูเครนและรัสเซียตกลงร่วมกัน โดยสหรัฐฯ จะสื่อสารไปยังรัสเซียว่าการตอบรับข้อเสนอนี้เป็นกุญแจสำคัญสู่สันติภาพ