วันนี้ (1 ธันวาคม 2568) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทีมควบคุมโรคจากกรมควบคุมโรค พร้อมกองโรคติดต่อนำโดยแมลง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต 5 ราชบุรี เขต 6 ชลบุรี และเขต 12 สงขลา ได้ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและสัตว์พาหะที่อาจเป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่อหลังสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่รวม 62 คน แบ่งเป็น 12 ทีม ลงปฏิบัติงานใน 6 ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พร้อมอุปกรณ์ควบคุมแมลง ได้แก่ เครื่องพ่นยาสะพายหลัง 39 เครื่อง และเครื่องพ่นสารเคมีระบบ ULV ติดรถยนต์ 7 คัน

นายแพทย์มณเฑียร ระบุว่า ได้ย้ำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังโรคที่เกิดจากยุงและแมลงกัดต่อย โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก หากพบอาการไข้สูงมากกว่า 2 วัน มีผื่นหรือจุดแดงขึ้นตามตัว ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย คลื่นไส้ อาเจียน ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลังน้ำลดยังพบความเสี่ยงของโรคไข้ฉี่หนู (Leptospirosis) เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่ต้องลุยน้ำหรือทำงานในพื้นที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียมักปนเปื้อนอยู่ในน้ำหรือดินที่มีปัสสาวะหนูหรือสัตว์เลี้ยงปะปน เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังที่มีรอยถลอกหรือบาดแผล จะทำให้เกิดโรคได้อย่างรวดเร็ว อาการสำคัญ ได้แก่ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อน่อง ตาแดง คลื่นไส้ หรืออาเจียน หากปล่อยทิ้งไว้อาจลุกลามจนเกิดไตวาย ตับวาย หรือเลือดออกในปอด ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนในโรงพยาบาลเท่านั้น

อธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำว่า ประชาชนควรป้องกันตนเองโดยหลีกเลี่ยงการลุยน้ำหรือพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมรองเท้าบูตและถุงมือเพื่อป้องกันเชื้อโรค ไม่ควรสัมผัสดินหรือโคลนด้วยมือเปล่า และควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังสัมผัสน้ำ หากพบว่ามีไข้หรืออาการผิดปกติหลังจากลุยน้ำ ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด พร้อมแจ้งประวัติการสัมผัสน้ำเพื่อง่ายต่อการวินิจฉัยโรค

ทั้งนี้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลังน้ำท่วม สามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

แหล่งที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

บทความก่อนหน้า

กรมควบคุมโรคลงพื้นที่หาดใหญ่หลังน้ำลด พบประชาชนเสี่ยงบาดทะยัก เร่งให้คำแนะนำดูแลบาดแผลและเข้ารับวัคซีน

บทความถัดไป

ททท. ผนึกสายการบินญี่ปุ่น เปิด 3 เส้นทางบินใหม่ ดันนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นแตะ 1 ล้านในปี 2568