ปักกิ่ง, 9 มิ.ย. (ซินหัว) -- สเปซ อีพ็อก (SEPOCH) บริษัทสตาร์ตอัปด้านจรวดของจีน ประสบความสำเร็จในการทดสอบขนส่งพัสดุจากเถาเป่า (Taobao) หนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยใช้จรวดทดสอบเอ็กซ์แซดวาย-1 (XZY-1) ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และรองรับการขนส่งพัสดุหนักกว่า 20 กิโลกรัม ในระหว่างเที่ยวบินทดสอบนอกชายฝั่งตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา
จรวดสแตนเลสขนาด 26.8 เมตร น้ำหนัก 57 ตัน ขึ้นบินเป็นเวลา 125 วินาที และแตะระดับความสูง 2.5 กิโลเมตร ก่อนลงจอดในแนวตั้งบริเวณผิวน้ำใกล้มณฑลซานตง ซึ่งต่อมามีการเก็บกู้จรวดขึ้นมาจากทะเลโดยใช้เวลา 18 ชั่วโมง โดยตัวจรวดยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีเยี่ยม ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลจิสติกส์อวกาศเชิงพาณิชย์
จรวดทดสอบเอ็กซ์แซดวาย-1 มีห้องบรรทุกสัมภาระขนาด 120 ลูกบาศก์เมตร ได้รับการออกแบบให้บรรทุกสินค้าได้มากถึง 10 ตัน โดยในทางทฤษฎีแล้วสามารถบรรทุกรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กได้ด้วย
สินค้าที่ทดลองขนส่งด้วยจรวดเป็นของจากร้านค้าออนไลน์เถาเป่าสองร้าน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จากร้านทางการของหอสมุดแห่งชาติจีน และโปสการ์ดที่ระลึกที่ทำขึ้นสำหรับเที่ยวบินทดสอบนี้โดยเฉพาะ โดยเว่ยอี ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ระบุว่าการจัดส่งครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานในด้านการทนไฟ ทนความชื้น และดูดซับแรงกระแทก
ความร่วมมือระหว่างสเปซ อีพ็อกกับเถาเป่าของอาลีบาบา (Alibaba) สะท้อนพัฒนาการของจีนในแวดวงการขนส่งด้วยจรวดแบบจุดต่อจุด (point-to-point rocket transport) ที่กำลังเติบโต เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะปฏิวัติโลจิสติกส์ระดับโลกโดยลดเวลาการจัดส่งข้ามทวีปจากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่นาที
เว่ยยอมรับว่าต้นทุนปัจจุบันยังสูงเกินไปสำหรับการจัดส่งให้กับผู้บริโภคทั่วไป และการใช้งานระยะเบื้องต้นจะมุ่งเน้นไปที่การจัดส่งในกรณีฉุกเฉิน การบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ และการจัดหาทรัพยากรให้กับพื้นที่ห่างไกล อย่างไรก็ดี คาดว่าการใช้งานจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้และการประยุกต์ใช้สแตนเลสในทางวิศวกรรมอาจช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้วยจรวดลงอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศระบุว่าการขนส่งด้วยจรวดเป็นแผนในระยะยาว แม้ว่าในอนาคตวิธีการนี้อาจเอื้อให้กระบวนการขนส่งระดับโลกเร็วประหนึ่งสายฟ้าแลบ ทว่ายังต้องมีการทดสอบหลายครั้งเพื่อยืนยันเทคโนโลยีการกู้คืนจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมทั้งความแข็งแกร่งและความทนทานของตัวจรวด
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่าสามารถทำภารกิจส่งจรวดขึ้นบินในวงโคจรและกู้คืนครั้งแรกได้ภายในสิ้นปี 2025 จรวดดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งสัมภาระหนัก 7 ตันไปยังวงโคจรระยะทาง 1,100 กิโลเมตร โดยใช้เชื้อเพลิงออกซิเจน-มีเทนเหลว และในอนาคตจะมีการปรับปรุงคลังขนส่งของจรวด เพื่อขยายการรองรับประเภทสินค้าให้ครอบคลุมของสดและสินค้าเปราะบางด้วย