ปักกิ่ง, 1 ก.ค. (ซินหัว) -- ปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ช่วยส่งเสริมคำกล่าวคุ้นหูที่ว่า "จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน"
ทุกวันนี้การรับประทานทุเรียนหรือการรับชมละครไทยกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของชาวจีนจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของไทยอย่างมวยไทยได้รับความนิยมชมชอบในจีนด้วย
มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของไทย ซึ่งใช้สองมือ สองขา สองศอก และสองเข่า หลอมรวมเป็นแปดอาวุธโจมตี โดยผู้เรียนผู้เล่นมวยไทยในไทยมักเป็นผู้ชาย แต่มวยไทยในจีนนั้นกลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชายหญิง รวมถึงเป็นกีฬาของทั้งเด็กและผู้ใหญ่
มาประลอง ศ.บุญยงยศ หรือคิม ผู้ฝึกสอนประจำชมรมการต่อสู้มวยไทยเอ็มพีแอล (MPL) ในกรุงปักกิ่ง เล่าว่าเขาอยู่ปักกิ่งมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกมียิมมวยไทยน้อยมาก แต่พอผ่านไปสัก 4-5 ปี เริ่มมียิมมวยไทยเพิ่มขึ้น และผู้คนในจีนหันมาสนใจมวยไทยกันมากขึ้น
ทั้งนี้ มวยไทยได้พัฒนาจากศิลปะการต่อสู้ต่างชาติเป็นตัวเลือกการออกกำลังกายประจำวันของผู้คนในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนด้วย
ขณะมวยไทยได้รับความนิยมในจีน การเต้นระบำเอ็งกอของจีนได้เข้าสู่ไทยและผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยวันเพ็ญ วิถีธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญญวิทยาคารในอำเภอพนัสนิคม กล่าวว่าเอ็งกอเผยแพร่เข้าสู่อำเภอพนัสนิคมผ่านชาวจีนจากเมืองผู่หนิงหรือโผวเล้งเมื่อราว 100 ปีก่อน นำสู่การก่อตั้งทีมนักเต้นระบำเอ็งกอหลายทีมในเวลาต่อมา
การเต้นระบำเอ็งกอกลายเป็นประเพณีพื้นบ้านในอำเภอพนัสนิคม มีคณะนักเต้นระบำเอ็งกอวัยเยาว์ขึ้นเวทีทำการแสดงตามงานเทศกาลดั้งเดิมของไทยอย่างเทศกาลลอยกระทง ซึ่งมอบสีสันความสนุกสนานรื่นเริงแก่ผู้ชมด้วยการแต่งองค์ทรงเครื่องอันโดดเด่นและท่วงท่าลีลาอันองอาจดังวีรบุรุษ
มวยไทยที่สำแดงความแข็งแกร่งและการเต้นระบำเอ็งกอที่สะท้อนจิตวิญญาณวีรบุรุษเขาเหลียงซานกำลังเขียนเรื่องราวการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างเพื่อนบ้านที่ดีและหุ้นส่วนที่ดี โดยการผสมผสานทางวัฒนธรรมและความกลมกลืนทางจิตวิญญาณจะช่วยนำพาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยก้าวสู่อีกห้าสิบปีทองของความผูกพันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น