เตหะราน, 23 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) มัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และกล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องเผชิญผลพวงจากโจมตีฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยการโจมตีดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ชัดเจนของความไม่จริงใจและข้ออ้างอันไร้มูลความจริง
ทำเนียบประธานาธิบดีอิหร่านระบุว่าเปเซชกียานยังเน้นย้ำความมุ่งมั่นของอิหร่านในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับยุโรปต่อไป กล่าวว่าอิหร่านพร้อมเจรจาและมีปฏิสัมพันธ์กับยุโรปอยู่เสมอ ไม่เคยละทิ้งแนวทางการทูตเพราะการเจรจาหารือไม่เคยสร้างอันตรายแก่ฝ่ายใด
ด้านมาครงสำทับว่าฝรั่งเศสยินดีจะการเจรจาหารือกับอิหร่าน พร้อมเสริมว่าฝรั่งเศสยังคงเดินหน้าความพยายามยุติความขัดแย้งและฟื้นฟูเสถียรภาพ
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ (21 มิ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากองกำลังสหรัฐฯ ได้โจมตีฐานปฏิบัติการทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน
การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอิหร่านตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งคร่าชีวิตผู้บัญชาการอาวุโส นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนรวมหลายราย ด้านอิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและโดรน
กระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านรายงานว่าการโจมตีของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย และผู้บาดเจ็บมากกว่า 3,500 ราย เมื่อนับถึงวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ขณะเดียวกันทางการอิสราเอลรายงานว่าการโจมตีของอิหร่านส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย
(แฟ้มภาพซินหัว : มัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน แถลงข่าวในกรุงเตหะรานของอิหร่าน วันที่ 16 ก.ย. 2024)