นิวยอร์ก, 20 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่าจะสั่งโจมตีอิหร่านหรือไม่ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยการตัดสินใจของทรัมป์ขึ้นอยู่กับว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศจะเกิดขึ้นหรือไม่ในช่วงเวลานี้
เลวิตต์กล่าวข้อความข้างต้นซึ่งเป็นการอ่านแถลงการณ์จากทรัมป์ เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลหรือไม่ พร้อมระบุว่าหากมีข้อตกลงทางการทูตเกิดขึ้น อิหร่านจะต้องยอมรับเงื่อนไขเรื่องการไม่เสริมสมรรถนะยูเรเนียม และไม่สามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้
เลวิตต์เสริมว่าการติดต่อระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านยังคงดำเนินต่อไป โดยก่อนหน้านี้มีรายงานระบุว่าสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์หลายครั้งกับอับบาส อารักชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มโจมตีอิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เพื่อพยายามหาทางออกทางการทูตสำหรับวิกฤตนี้
สื่ออ้างคำพูดของนักการทูต 3 คนที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่าการเจรจาครอบคลุมถึงข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่เสนอให้อิหร่านเข้าร่วมกลุ่มสมาคมระดับภูมิภาคเพื่อเสริมสมรรถนะยูเรเนียมนอกประเทศ แต่อิหร่านยังไม่ยอมรับข้อเสนอนี้
อารักชีบอกกับวิตคอฟฟ์ว่าอิหร่านอาจแสดงความยืดหยุ่นในประเด็นนิวเคลียร์ หากรัฐบาลสหรัฐฯ กดดันให้อิสราเอลยุติสงคราม พร้อมย้ำว่าอิหร่านจะไม่กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เว้นแต่อิสราเอลจะยุติการโจมตี
ด้านรายงานจากสื่อเผยว่าทรัมป์ได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่านแล้วเมื่อคืนวันอังคาร (17 มิ.ย.) แต่ยังไม่ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพื่อรอดูว่าอิหร่านจะตกลงยกเลิกโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ โดยทรัมป์ประชุมร่วมกับทีมความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ห้องสถานการณ์ (Situation Room) ทุกวันตั้งแต่วันอังคาร (17 มิ.ย.) ที่ผ่านมา
(แฟ้มภาพซินหัว : โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 12 มิ.ย. 2025)