จี่หนาน, 5 มิ.ย. (ซินหัว) -- การค้นพบซึ่งเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) เมื่อวันพุธ (4 มิ.ย.) เปิดเผยว่านักวิทยาศาสตร์จีนยืนยันการมีอยู่ของชุมชนที่มีโครงสร้างสังคมแบบผู้หญิงเป็นใหญ่ หรือสังคมที่สืบสายตระกูลจากฝ่ายมารดา (matrilineal society) ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณมณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน โดยผลการค้นพบนี้ทำให้ลำดับเวลาการมีอยู่ของสังคมลักษณะนี้ย้อนกลับไปไกลกว่าที่เคยเชื่อกันว่าปรากฏในยุคเหล็กในยุโรป
ทีมวิจัยได้วิเคราะห์ดีเอ็นเอโบราณ ควบคู่กับบริบททางโบราณคดีและชุดข้อมูลไอโซโทปเสถียร จากร่างมนุษย์โบราณ 60 คนที่ฝังอยู่ในสุสาน 2 แห่งของแหล่งโบราณคดีฟู่เจีย ในอำเภอกว่างเหราของซานตง ซึ่งมีอายุอยู่ระหว่าง 2,750-2,500 ปีก่อนคริสตศักราช
ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่ายุคดังกล่าวมีชุมชนที่สืบสายตระกูลจากฝ่ายมารดาเกิดขึ้นจริงในช่วงยุคหินใหม่ โดยมีการแต่งงานภายในกลุ่มคนพวกเดียวกันที่มีความเชื่อและประเพณีวัฒนธรรมเหมือนหรือใกล้เคียง (endogamy) และดำรงชีพด้วยการเพาะปลูกข้าวฟ่างใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมีหลักฐานการแต่งงานระหว่างบุคคลจากทั้งสองสุสาน และการฝังศพที่จัดตามสายตระกูลฝ่ายแม่อย่างชัดเจน สะท้อนถึงโครงสร้างสังคมที่มีเอกภาพและอัตลักษณ์ที่มั่นคง
จางไห่ นักวิจัยจากภาควิชาโบราณคดีและพิพิธภัณฑศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ระบุว่าการวิจัยครั้งนี้ยืนยันการมีอยู่ของโครงสร้างสังคมที่สืบสายตระกูลจากฝ่ายมารดาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเปิดเผยรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้าง ขนาดประชากร รูปแบบการดำรงชีวิต และระดับการผลิตของกลุ่มตระกูลที่ปกครองโดยฝ่ายหญิงบริเวณชายฝั่งลุ่มแม่น้ำเหลืองตอนล่างในยุคหินใหม่ โดยการค้นพบนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการศึกษาระบบสังคมของมนุษย์ยุคแรกเริ่ม
(แฟ้มภาพซินหัว : นักท่องเที่ยวถ่ายรูปในอุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำระดับชาติฮวาซี นครกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน วันที่ 25 ต.ค. 2022)