(แฟ้มภาพซินหัว : โลโก้ติ๊กต็อกที่สำนักงานของติ๊กต็อก สาขาลอสแอนเจลิส ในเมืองคัลเวอร์ เทศมณฑลลอสแอนเจลิสของสหรัฐฯ วันที่ 21 ส.ค. 2020)
ลอสแอนเจลิส, 18 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) โจวโซ่วจือ ซีอีโอของติ๊กต็อก (TikTok) กล่าวว่าติ๊กต็อกจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตต่อไปในอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นการตอบโต้โดยตรงสู่คำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่ยืนกรานคำสั่งแบนติ๊กต็อก
คลิปวิดีโอความยาวประมาณหนึ่งนาทีครึ่ง ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า "การตอบกลับของเราต่อคำตัดสินของศาลสูงสุด" (Our response to the Supreme Court decision) โจวกล่าวถึงคำตัดสินของศาลสูงสุดและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านราย
โจวชี้ว่าติ๊กต็อกและผู้ใช้งานได้ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญด้านเสรีภาพการแสดงออกของชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคน ซึ่งใช้งานแพลตฟอร์มยอดนิยมนี้ทุกวัน และโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นจะทำงานร่วมกับติ๊กต็อกเพื่อหาแนวทางทำให้ติ๊กต็อกยังคงอยู่ในสหรัฐฯ
ติ๊กต็อกขอบคุณและยินดีที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีที่เข้าใจแพลตฟอร์มของเราอย่างแท้จริง ผู้ซึ่งเคยใช้ติ๊กต็อกแสดงความคิดและมุมมอง เชื่อมต่อกับโลก และสร้างยอดการรับชมเนื้อหาของเขามากกว่า 6 หมื่นล้านครั้ง
นอกจากนั้นโจวขอบคุณผู้ใช้งานชาวอเมริกันที่ช่วยทำให้ชุมชนติ๊กต็อกเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความมีชีวิตชีวา โดยติ๊กต็อกจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์และการสำรวจต่อไป
เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (17 ม.ค.) ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ยืนกรานกฎหมายที่บังคับให้ติ๊กต็อกจำหน่ายกิจการแก่บริษัทอเมริกัน มิฉะนั้นแอปพลิเคชันยอดนิยมนี้จะถูกแบนตั้งแต่วันอาทิตย์ (19 ม.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งวันก่อนทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี
ผู้คนหลายล้านแห่เข้าชมคลิปวิดีโอของโจวบนติ๊กต็อก และมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นหลายหมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่แสดงการสนับสนุนติ๊กต็อก
เมื่อเดือนเมษายน 2024 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้ลงนามกฎหมายที่ให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก จำหน่ายกิจการติ๊กต็อกภายในเวลาเพียง 270 วัน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติที่ไร้มูลฐาน ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายดังกล่าวจะบังคับผู้ให้บริการร้านค้าแอปพลิเคชัน เช่น แอปเปิล (Apple) และกูเกิล (Google) ลบติ๊กต็อกออกจากแพลตฟอร์มตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2025