นิวยอร์ก, 16 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศการจัดเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 19 กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากอินโดนีเซีย ขณะสินค้าส่งออกจากสหรัฐฯ สู่อินโดนีเซียจะได้รับการยกเว้นจากมาตรการภาษีศุลกากรและที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร

ทรัมป์เผยผ่านแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล ว่าเขาได้สรุปข้อตกลงสำคัญกับอินโดนีเซียหลังจากพูดคุยกับปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เปิดตลาดทั้งหมดของอินโดนีเซียให้สหรัฐฯ เข้าถึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าวคืออินโดนีเซียจะซื้อพลังงาน มูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.88 แสนล้านบาท) และสินค้าเกษตร มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.47 แสนล้านบาท) จากสหรัฐฯ นอกเหนือจากเครื่องบินโบอิง 50 ลำ

ทรัมป์กล่าวว่านับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คนเลี้ยงปศุสัตว์ เกษตรกร และชาวประมงของสหรัฐฯ จะสามารถเข้าถึงตลาดอินโดนีเซียที่มีประชากรกว่า 280 ล้านคนอย่างสมบูรณ์และครบวงจร

ทั้งนี้ ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวก่อนเดินทางไปยังเมืองพิตต์สเบิร์กของรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ว่าอินโดนีเซียอุดมด้วยแร่ธาตุหายากและวัสดุอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงทองแดงที่มีอยู่เยอะมาก ซึ่งสหรัฐฯ จะสามารถเข้าถึงทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้

บทความก่อนหน้า

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งสำนักงานคุม 'ผู้อยู่อาศัยต่างชาติ' มุ่งดูแลเข้มงวดยิ่งขึ้น

บทความถัดไป

ทะเลสาบเปลี่ยนสี เนรมิต 'ดวงตาแดง' กลางทะเลทรายมองโกเลียใน