ปักกิ่ง, 14 มิ.ย. (ซินหัว) -- ท่ามกลางอากาศอบอ้าวยามต้นฤดูร้อนของซีอัน นครที่เป็นเมืองหลวงโบราณยาวนานที่สุดของจีน มีต้นทับทิม 6 ต้นยืนหยัดอย่างสง่างามใกล้สถานที่ประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023
ต้นทับทิมที่ผลิดอกออกผลเหล่านี้ปลูกโดยสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และคณะผู้นำประเทศเอเชียกลาง 5 แห่ง เมื่อราวสองปีก่อน และยังคงยืนต้นอย่างโดดเด่นเป็นเครื่องพิสูจน์สายใยผูกพันอันใกล้ชิดและมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจีนและเอเชียกลาง
สีจิ้นผิงและคณะผู้นำประเทศเอเชียกลางมีกำหนดรวมตัวกันในกรุงอัสตานาของคาซัคสถานในเดือนมิถุนายนนี้เพื่อการประชุมสุดยอดฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งจะถักทอสายใยแห่งการค้า ความมั่นคง และการเชื่อมต่อทั่วใจกลางยูเรเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
กระบวนทัศน์ใหม่ของการต่างประเทศ
การประชุมสุดยอดฯ ณ นครซีอันในปี 2023 เป็นการประชุมของคณะผู้นำประเทศภายใต้กลไกความร่วมมือจีน-เอเชียกลางครั้งแรก ซึ่งเห็นพ้องจะจัดการประชุมระดับสูงเช่นนี้ทุกสองปีแบบสลับกันในจีนและเอเชียกลาง โดยกลไกข้างต้นได้ยกระดับเป็นสถาบันในปี 2024 ตามการจัดตั้งสำนักเลขาธิการในนครซีอัน เมืองเอกของมณฑลส่านซี ซึ่งเป็นมณฑลบ้านเกิดของสีจิ้นผิง
สีจิ้นผิงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของจีนกับภูมิภาคเอเชียกลางอย่างมากเพราะมองว่าเอเชียกลางตั้งอยู่บนทางแยกยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อเหนือใต้ออกตก โดยสีจิ้นผิงกล่าวระหว่างเยือนเอเชียกลางครั้งแรกหลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนในปี 2013 ว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับกลุ่มประเทศเอเชียกลางเป็นพันธกิจนโยบายการต่างประเทศสำคัญของจีน
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สีจิ้นผิงได้เดินทางเยือนเอเชียกลางถึง 8 ครั้ง กระชับความเป็นหุ้นส่วนแบบทวิภาคีและผ่านเวทีต่างๆ เช่น องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) และการประชุมว่าด้วยมาตรการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นในเอเชีย (CICA)
ปัจจุบันเอเชียกลางถือเป็นภูมิภาคเดียวในโลกที่ทุกประเทศเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของจีน โดยสีจิ้นผิงกล่าวว่าความเป็นหุ้นส่วนเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดวิถีทางใหม่ของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ซึ่งสร้างสรรค์กระบวนทัศน์ใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
จุดเด่นของการประชุมสุดยอดฯ ในนครซีอันคือการลงนามแถลงการณ์ซีอัน (Xi'an Declaration) ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของสีจิ้นผิงและประธานาธิบดีของประเทศเอเชียกลาง 5 แห่งในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกันและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น
ความมุ่งมั่นนี้สอดคล้องกับแนวคิดหลักของสิ่งที่เรียกว่า "การทูตสีจิ้นผิง" (Xiplomacy) นั่นคือการสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งมีการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์นี้ในระดับทวิภาคีทั่วภูมิภาคเอเชียกลางอย่างเต็มกำลัง
เชอราดิล บากตีกูลอฟ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายโลกแห่งคีร์กีซสถาน กล่าวว่าเจตจำนงทางการเมืองร่วมกันของสีจิ้นผิงและคณะผู้นำประเทศเอเชียกลางเป็นกุญแจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของความร่วมมือจีน-เอเชียกลาง ซึ่งไม่เพียงเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทวิภาคี แต่ยังวางรากฐานสำหรับความร่วมมือพหุภาคีรูปแบบใหม่ในภูมิภาคยูเรเซียด้วย
มิตรไมตรีส่วนบุคคลอันแข็งแกร่งของสีจิ้นผิงกับคณะผู้นำประเทศเอเชียกลางได้ส่งเสริมความสัมพันธ์เหล่านี้ ดังเช่นตอนการประชุมสุดยอดฯ ในนครซีอัน สีจิ้นผิงได้ทักทายเอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน ในฐานะ "เพื่อนเก่า" และตอนหารือกับชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ประธานาธิบดีอุซเบกิสถาน สีจิ้นผิงได้รับการยกย่องเป็น "พี่ชายที่รัก" โดยมีร์ซีโยเยฟ
คาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน ซึ่งเป็นนักจีนวิทยามากประสบการณ์ ได้เดินทางถึงนครซีอันในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 ซึ่งสีจิ้นผิงกล่าวว่าการมาเยือนในโอกาสพิเศษเช่นนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของสายสัมพันธ์ทวิภาคีและยืนยันสายใยผูกพันพิเศษกับจีน
การฟื้นคืนเส้นทางสายไหม
"เริ่มต้นการขนส่ง!" ด้วยคำสั่งนี้ สีจิ้นผิงและโตกาเยฟได้ร่วมเปิดเส้นทางขนส่งด่วนจีน-ยุโรป แบบผ่านทะเลสาบแคสเปียน ณ พิธีการในกรุงอัสตานาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 ซึ่งเป็นหมุดหมายการจัดตั้งเครือข่ายการเชื่อมต่อหลายมิติ ซึ่งบูรณาการทางหลวง ทางรถไฟ สายการบิน และท่อลำเลียง เพื่อเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรปผ่านทะเลสาบแคสเปียนได้ดียิ่งขึ้น
เส้นทางขนส่งด่วนจีน-ยุโรป แบบผ่านทะเลสาบแคสเปียน จะเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) โดยสีจิ้นผิงเล็งเห็นหุ้นส่วนสำคัญในภูมิภาคเอเชียกลางสำหรับความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสมัยใหม่ ซึ่งสานต่อจากเส้นทางสายไหมโบราณที่มีการค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับเอเชียกลางอย่างคึกคัก
ย้อนกลับไปเดือนกันยายน 2013 ณ กรุงอัสตานา สีจิ้นผิงได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญที่มหาวิทยาลัยนาซาร์บายิฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการเปิดเผยวิสัยทัศน์การสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม (Silk Road Economic Belt) อันเป็นองค์ประกอบหลักของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
สีจิ้นผิงกล่าวว่าเราสามารถหารือหนทางที่ดีที่สุดในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการขนส่งข้ามพรมแดนอย่างแข็งขัน และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายการขนส่งที่เชื่อมต่อเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันตก และเอเชียใต้ ซึ่งจะเกื้อหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการเดินทางในภูมิภาค
หลายปีนับตั้งแต่นั้นมา วิสัยทัศน์นี้ค่อยๆ กลายเป็นความจริง ตัวอย่างล่าสุดคือพิธีเปิดโครงการก่อสร้างทางรถไฟจีน-คีร์กีซสถาน-อุซเบกิสถาน เมื่อปลายปี 2024 ในเมืองจาลาลาบัตของคีร์กีซสถาน ซึ่งสีจิ้นผิงได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีและเรียกร้องการสร้างทางรถไฟสายนี้เป็น "โครงการสาธิตใหม่" ภายใต้ความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
ทางรถไฟจีน-คีร์กีซสถาน-อุซเบกิสถาน จะมีจุดเริ่มต้นจากเมืองคัชการ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางบนเส้นทางสายไหมโบราณ ตัดผ่านช่องเขาโทรูการ์ตเข้าสู่คีร์กีซสถาน วิ่งสู่ทิศตะวันตกผ่านเมืองจาลาลาบัต และถึงจุดหมายปลายทางที่เมืองอันดีจานทางตะวันออกของอุซเบกิสถาน
ซาดีร์ แจแปรอฟ ประธานาธิบดีคีร์กีซสถาน กล่าวว่าทางรถไฟสายนี้ไม่ได้เป็นเพียงระเบียงการขนส่ง แต่ยังเป็นสะพานเชิงยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมต่อกลุ่มประเทศตะวันออกและตะวันตก
ความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้กระตุ้นการค้า การเดินทาง และการแลกเปลี่ยนในภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการค้าของจีนกับเอเชียกลางในปี 2024 สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.07 ล้านล้านบาท) ซึ่งบางส่วนได้แรงกระตุ้นจากภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่เฟื่องฟู ทำให้ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งและแหล่งการลงทุนหลักของเอเชียกลาง
ทาจิกิสถานเป็นประเทศแรกที่ลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมกับจีนในปี 2014 ซึ่งการทำงานร่วมกันนับตั้งแต่นั้นมาได้สร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ตั้งแต่ทางหลวงใหม่หลายสายและโรงไฟฟ้าใหม่หลายแห่งจนถึงแลนด์มาร์กใหม่ของเมือง
นอกจากนั้นทาจิกิสถานยังเป็นประเทศแรกในเอเชียกลางที่จัดตั้งห้องปฏิบัติการหลู่ปาน ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพของจีนที่มีนักศึกษามากกว่า 1,500 คน ได้เรียนรู้ทักษะเชิงปฏิบัติด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การจัดการน้ำ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมผู้มีความรู้ความสามารถสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต
การถักทอผืนผ้าแห่งวัฒนธรรม
ฤดูใบไม้ร่วงของปี 2022 สีจิ้นผิงได้เดินทางเยือนเมืองซามาร์กันต์ของอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นเมืองแห่งเรื่องราวบนเส้นทางสายไหม และมอบของขวัญพิเศษแก่ชัฟคัต มีร์ซีโยเยฟ ประธานาธิบดีอุซเบกิสถาน ได้แก่ เมืองคีวาขนาดย่อส่วน
เมืองคีวาเป็นด่านหน้าโบราณบนเส้นทางสายไหมและโครงการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมโครงการแรกของจีนในเอเชียกลาง โดยการฟื้นฟูนานหลายปีที่นำโดยคณะผู้เชี่ยวชาญของจีนช่วยปรับปรุงโฉมหน้าของเมืองโบราณแห่งนี้
สีจิ้นผิงเผยผ่านบทความที่มีการลงนามก่อนเยือนอุซเบกิสถานในปี 2022 ว่าการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในเมืองคีวา ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มต้นระหว่างเยือนเมืองซามาร์กันต์ในปี 2013 ได้สำเร็จลุล่วงและเพิ่มพูนมนต์เสน่ห์ของเมืองโบราณแห่งนี้ยิ่งขึ้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความพยายามร่วมด้านโบราณคดีระหว่างคณะนักวิชาการของจีนกับเอเชียกลางได้ขยับขยายทั่วภูมิภาค รวมถึงเมืองโบราณราหัตในคาซัคสถาน และวัดพุทธโบราณคราสนายา เรชคา ในคีร์กีซสถาน
สีจิ้นผิงเน้นย้ำหลายครั้งว่ามิตรภาพจีน-เอเชียกลางนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยหลายวาระโอกาส สีจิ้นผิงกล่าวถึงมรดกของจางเชียน ทูตยุคราชวงศ์ฮั่นที่เดินทางสู่ดินแดนตะวันตกเมื่อมากกว่า 2,100 ปีก่อน และเปิดประตูแห่งมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนอันยืนนานระหว่างจีนกับเอเชียกลาง พร้อมสำทับถึงความจำเป็นในการสืบสานมิตรภาพดั้งเดิม
ขณะเยือนคาซัคสถานอย่างเป็นทางการในปี 2024 สีจิ้นผิงและโตคาเยฟได้ร่วมเปิดมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง สาขาคาซัคสถาน ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ เป็นสถาบันที่โตคาเยฟเคยศึกษาเล่าเรียนภาษาจีนในทศวรรษ 1980 โดยสีจิ้นผิงแสดงความหวังว่าสถานศึกษาแห่งใหม่นี้จะส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนสองประเทศ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
สีจิ้นผิงยังได้พบปะกับกลุ่มเด็กนักเรียนที่กล่าวทักทายด้วยภาษาจีนกลางและร้องเพลงภาษาจีนระหว่างเยือนคาซัคสถานในปีที่ผ่านมา โดยนักเรียนบางคนเผยความฝันว่าวันหนึ่งจะได้ไปเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวที่สีจิ้นผิงเป็นศิษย์เก่า ซึ่งสีจิ้นผิงอวยพรให้เด็กน้อยได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีในอนาคตและยินดีต้อนรับเด็กนักเรียนมาศึกษาต่อที่จีน
ซาโรฟิดดิน ตูลากานอฟ นักสังเกตการณ์ทางการเมืองชาวอุซเบกิสถาน แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการแลกเปลี่ยนดังกล่าวว่าการเรียนรู้ซึ่งกันและกันในหมู่อารยธรรมต่างๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายใต้กลไกความร่วมมือจีน-เอเชียกลาง
ตูลากานอฟเสริมว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนในเชิงองค์กรลักษณะนี้จะช่วยอัดฉีดพลังทางวัฒนธรรมอันมีค่าสู่ความพยายามคุ้มครองสันติภาพของภูมิภาคและสนับสนุนการพัฒนาร่วมกัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศอันสลับซับซ้อนในปัจจุบัน
(แฟ้มภาพซินหัว : ประตูหย่งหนิงในเมืองซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 25 เม.ย. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และคณะผู้นำประเทศเอเชียกลาง 5 แห่ง ปลูกต้นทับทิม 6 ต้น ซึ่งเป็นตัวแทนความสามัคคีและความร่วมมือจีน-เอเชียกลาง หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง ครั้งที่ 1 ในเมืองซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 19 พ.ค. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองคีวาในอุซเบกิสถาน วันที่ 21 ก.ย. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : ฐานความร่วมมือโลจิสติกส์จีน-คาซัคสถาน (เหลียนอวิ๋นก่าง) ในเมืองเหลียนอวิ๋นก่าง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน วันที่ 26 มิ.ย. 2024)
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินสู่สถานที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับร่วมกับแขกในเมืองซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 18 พ.ค. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : นักศึกษาเรียนรู้ทักษะที่ห้องปฏิบัติการหลู่ปานในกรุงดูชานเบของทาจิกิสถาน วันที่ 31 พ.ค. 2025)
(แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางถึงกรุงอัสตานาของคาซัคสถาน เพื่อการประชุมสภาผู้นำประเทศแห่งองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และเยือนคาซัคสถานอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของคาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน วันที่ 2 ก.ค. 2024)